28 เมษายน 2555

ร่ายรักลอร์ดอสูร-The Madness of Lord Ian MacKenzie///Jennifer Ashley


เราเคยอ่านหนังสือของเจนนิเฟอร์ แอชลี่ย์ ชุด  Nvengaria  เรื่อง เจ้าชายหนุ่มทาสเสน่หา ค่ะ แต่อ่านไม่จบเหตุผลหลายอย่างประกอบกันไม่ว่าจะเป็นพลอต การเดินเรื่องแต่แย่มากที่สุดคือสำนวนแปล ทำให้เลิกตามซื้อชุดนี้ไปโดยปริยาย หลังจากนั้นเราก็ซื้อหนังสือของโจแอนนา บอร์นมาอ่าน ฝีมือนักแปลคนเดียวกันใจชื้นขึ้นมานิดแปลดีขึ้นแต่ส่วนหนึ่งเพราะหนังสือ เรื่องนั้นเขียนดีด้วยค่ะ  แต่น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีนะคะที่จะทำให้เรามั่นใจจะซื้อเรื่องนี้ หนังสือนิยายโรมานซ์อันดับหนึ่งของเว็บ All About Romance การันตีคุณภาพ
 

ร่ายรักลอร์ดอสูร-The Madness of Lord Ian MacKenzie///Jennifer Ashley
ผู้แปล  สุมนทิพย์  สำนักพิมพ์ คริสตัล พิมพ์ปี  2555

                หนังสือเล่มแรกของชุด Highland Pleasures  กล่าวถึงพี่น้องสี่คน ชายหนุ่มล้วนตระกูลแมคเคนซี่  ครอบครัวขุนนางชาวสกอตซึ่งแต่ละคนมีแต่เรื่องฉาวโฉ่แตกต่างกันไปแน่นอนว่า ล้วนมีผู้หญิงมาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น เริ่มที่เล่มแรกกับ  ลอร์ดเอียน น้องชายคนเล็กของตระกูลแมคเคนซี่ กำลังต่อรองซื้อเครื่องลายครามราชวงศ์หมิงกับเมเธอร์ หนุ่มเศรษฐีจอมปลอมซึ่งโอ้อวดตัวว่าใกล้ได้แต่งงานกับเบธ แม่ม่ายสามีตายซึ่งเกิดร่ำรวยขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวเพราะเธอได้รับแต่งตั้ง เป็นทายาทรับมรดกในฐานะทำงานเป็นผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์มานานหลายปีให้กับมิส ซิสแบริงตัน   ลอร์ดเอียนซึ่งรู้ถึงพฤติกรรมมักมากในกามารมณ์แบบจิตวิปริตของเมเธอร์ดี ฉวยโอกาสที่ได้รับการแนะนำให้รู้จักเบธบอกเธอและเสนอขอแต่งงานกับเธอแทน
            พบกันครั้งแรกเบธเป็นสับสนกิริยาท่าทางที่ลอร์ดเอียนแสดงออกทำให้เธอไม่ ปักใจเชื่อข้อมูลของเอียนเสียทีเดียว เบธทำการสืบจนแน่ใจที่เอียนกล่าวหาเมเธอร์เป็นความจริง  เธอตัดสินใจปฏิเสธคำขอแต่งงานของเอียน ประกาศยกเลิกการแต่งงานกับเมเธอร์และเดินทางไปปารีสทันทีทิ้งข่าวอื้อฉาวไว้ เบื้องหลังสร้างความอับอายแก่เมเธอร์และโกรธแค้นเอียนที่ทำให้เขาตกต่ำลงอีก ครั้งจนกระทั่งคืนที่เอียนติดตามเบธไปฝรั่งเศสนั่นเองเกิดคดีฆาตกรรมโสเภณี ขึ้น เมเธอร์จัดการแจ้งเบาะแสพุ่งเป้าไปที่เอียนให้เฟลโล่ส์ ตำรวจสกอตแลนยาร์ดทำการสืบค้นทันที เฟลโลส์จับตาดูเอียนมาตลอดห้าปีการได้ทำคดีนี้เท่ากับเป็นโอกาสทองที่เขาจะ ได้เปิดโปงครอบครัวแมคเคนซี่อีกครั้งหลังจากเคยพลาดเพราะไม่มีหลักฐานเอาผิด เอียนเมื่อห้าปีก่อนในคดีคล้ายกันคือโสเภณีถูกฆ่าตายในซ่อง อีกนัยหนึ่งก็คือเฟลโล่ส์อ้างว่าที่เอียนรอดเพราะดยุคใช้อิทธิพลจนกันน้อง ชายจากข้อกล่าวหา
                การมาปักหลักที่ปารีสเพื่อหลบเลี่ยงข่าวฉาวของเบธไม่ได้เป็นไปตามที่เธอหวัง ไว้ เธอได้พบกับแมค พี่ชายของลอร์ดเอียน ซึ่งเธอมารู้ภายหลังว่าแยกกันอยู่กับภรรยา อิสเบลล่า พี่สะใภ้ของเอียนนี่เองที่ชวนเบธไปพักด้วยที่บ้านทำให้เอียนเข้าออกใกล้ชิด เบธได้สะดวกขึ้น ทำให้เธอได้รู้จักเอียนในแง่มุมที่ต่างจากที่เธอเคยได้ยินข่าวร่ำลือว่าเขา เป็นคนบ้าสติฟั่นเฟือนซึ่งเคยเข้าไปรับการบำบัดจิตมาแล้ว เธอตระหนักถึงปัญหาที่เอียนต้องทำความเข้าใจกับบทสนทนาที่เขาตามไม่เคยทัน เพราะกลไกของสมองการลำดับความคิด ความเข้าใจเชื่องช้า  สมาธิของเขาจดจ่อกับบางสิ่งเลยอาการเหมือนคนเหม่อลอย แต่ทั้งหมดนั้นเอียนก็มาพร้อมของขวัญที่ยิ่งใหญ่ เพราเขาเป็นคนที่มีความทรงจำดีเลิศ  แต่เอียนก็มีความจำที่เจ็บปวดมากมายเกินไป และเบธทำทุกวิถีทางให้เขารู้สึกสงบหยุดนิ่งได้
                ช่วงแรก ๆ เราค่อนข้างสับสนกับบุคลิกของตัวละครหลักค่ะโดยเฉพาะเบธซึ่งเรามีปัญหามาก กับบุคลิกห้าวหาญแบบสาวปากกล้าของเธอเพราะ เบธเอ่ยปากขอมีความสัมพันธ์กับเอียนแบบชั่วครั้งชั่วคราวแทนรับคำขอแต่งงาน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เลยเถิดจนเบธตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากซึ่งมีทางเดียว คือเอียนต้องให้เธอแต่งงานด้วยเพื่อปกป้องชื่อเสียงไม่ให้เสื่อมเสียจาก เฟลโลส์ที่ตามติดหวังจะทำลายเอียนให้ย่อยยับแหลกคามือ  แต่การแต่งงานระหว่างเอียนและเบธก็ไม่สามารถหยุดเฟลโลส์ได้คดีฆาตกรรมยัง เป็น อุปสรรคขัดขวางทั้งคู่เอียนต้องการให้เบธอยู่ห่าง ๆ แต่เบธต้องการรู้เรื่องทั้งหมดว่าเมื่อห้าปีก่อนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไหนจะความลับของตระกูลที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เอียนถูกพ่อจับส่งสถานบำบัดจิต อีกล่ะซึ่งแม้แต่พี่ ๆ ก็ไม่อาจหาญกล้าเอ่ยปากถามเอียนได้.

คะแนนความพอใจ 8+
ส่งท้าย มาว่ากันถึงสำนวนแปลบ้างนะคะ อย่างที่บอกไปว่าเรามีปัญหากับบุคคลิกของนางเอกมากแต่พยายามเข้าใจว่าเพราะ เธอเติบโตขึ้นมาในย่านอีสเอ็นด์ของลอนดอนรึเปล่าคำสนทนาของเธอจึงผู้แปลจึง แปลออกมาแสบซ่าได้มากขนาดนี้  ฉากที่เธอเชิญชวนพระเอกมีความสัมพันธ์ด้วย “ไม่ทราบว่า...คุณสนใจอยากเป็นกิ๊กกับฉันรึเปล่า”
อีกฉาก ที่เบธตอบโต้แมคที่สวนสาธารณะเมื่อพบกันฉากแรก แมคกล่าวหาว่าเบธจำเอียนผิดคนรึเปล่า เบธโต้ว่า "ถึงจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎที่ปลอมตัวเก่งขั้นเทพ ก็ไม่คิดว่าผิดคน "  ( อ่านแล้ว...นี่มันยุคไหน สมัยไหนกันแน่)
ฉากเดียวกัน แมคบนเบื่อปารีส แต่เขาต้องทนอยู่เพราะบางทีเขาอาจเจอคนมีพรสวรรค์จะได้ช่วยเป็น "ป๋าดัน" ให้พวกเขา
ฉากที่ฮาร์ตกล่าวหาเบธว่าล่อหลอกเอียนแต่งงานด้วยเพราะเขาสติไม่ดี   เบธชักของขึ้น  (เราอ่านก็เริ่มของขึ้นเหมือนกันค่ะ)
เราพยายามหาเหตุผลมาอธิบายให้ตัวเองนะคะว่าการเติบโตจากสลัมทำให้นักแปล ใช้คำแปลที่บ่งบอกบุคลิกที่แท้จริงของเบธใช่มั้ย ทำไมเราอ่านคำพวกนี้แล้วรู้สึกว่าเบธเป็นนางเอกที่ช่างเสียดสี ปากกล้า ประชดประชดเหลือเกิน เช่นวิจารย์นักร้องโอเปร่าว่ามี “อกตู้ม”
แต่ถ้าไม่ใช่มันก็เท่ากับว่าบุคลิกที่คนแต่งวางไว้เบี่ยงเบนไปจากความเป็นจริง
 อีกฉากหนึ่งค่ะ เบธบรรยายรูปลักษณ์ของเครื่องลายครามจีนแล้วย้อนถามเอียนว่าถูกไหม เอียนตอบกลับมาว่า  “ถูกต้องแล้วคร้าบ”   (โถ....เอียนของฉัน)
 แม้กระทั่งแดเนียล หลานชายของเอียน หัวเราะเอิ้กอ้ากแซวเฟลโลส์ว่า “โอย บ่ เอา”  (เอาเข้าไป เอ่อ..หรือว่าปี คศ. 1881 มีคนอิสานอพยพไปอยู่สกอตแลนด์แล้วนะ)

ได้แต่หวังว่าคำทักท้วงจากนักอ่านจะช่วยปรับปรุงการแปลให้ดีกว่านี้นะคะ เพราะยังเหลือหนังสือของชุดนี้ให้อ่านอีกสามเล่ม  ยิ่งของดยุค พี่ชายคนโต ผู้แปลใช้คำราชาศัพท์เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะ ทั้งที่ความจริงแล้วสามารถทับศัพท์ได้ นักอ่านคนไทยไม่ได้โง่จนไม่เข้าใจหรอกค่ะ  นิยายไทยยังผลิตขายตามกระแสของตลาดได้แล้วทำไมนิยายแปลจะทำตามเสียงเรียก ร้องของนักอ่านบ้างไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น: