16 ตุลาคม 2554

ราตรีระเริงไฟ : Hot Night /// Shannon McKenna


เห็นชื่อแชนน่อน แมคเคนน่า คงรู้กันเป็นอย่างดีนะคะว่าเราเป็นสาวกของเธอมาตั้งแต่ได้อ่าน แผนสยบรัก แค่เล่มแรกเท่านั้นพูดไปก็เหมือนแผ่นเสียงสะดุดค่ะ แต่ก็ยังอยากบอกอยู่ดีว่าเรารักหนังสือของแชนน่อน รักตัวละครของเธอ และคิดว่ามีหลายคนที่เห็นตรงกันค่ะไม่อย่างนั้นคงไม่มีหนังสือของเธอแปลออก ขายถี่ยิบแบบนี้แน่ ๆ จะว่าไปก็คงพอ ๆ กับลิซ่า มารี ไรซ์ นะคะ
หนังสือเรื่องราตรีระเริงไฟ เป็นหนังสือเล่มเดี่ยว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับชุดพี่น้องแมคคลาว์แต่อย่างใด ดูท่าแล้วสนพ.คงหยิบมาแปลหมดทุกเล่มนะคะ

ราตรีระเริงไฟ : Hot Night



ราตรีระเริงไฟ : Hot Night /// Shannon McKenna
แปลโดย พัญช์สิตา : พิมพ์ที่ คริสตัล พับลิชชิ่ง พิมพ์ปี 2554

เรื่องนี้หยิบยกเอาตำนานทองของประเทศสเปนที่ถูกโจรสลัดปล้นจนจมลงใต้ก้น ทะเลมาเป็นพลอตหลักจนกระทั่งถูกค้นพบหลังจากผ่านมาถึงสามร้อยกว่าปีโดย สมบัติของเรือสเปนได้นำมาจัดเก็บที่พิพิธภัณฑ์ซิลเวอร์ฟอร์กซึ่งมีแอ็บบี้ เป็นผู้จัดการพิพิธภัณฑ์และนักระดมเงินทุน ซึ่งกำลังจะมีโครงการเปิดการจัดแสดงครั้งใหญ่ ดูพลอตแล้วก็นึกเดาไว้ไม่ยากเลยค่ะว่าต้องมีนักโจรกรรม ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาเกี่ยวข้องแน่ ๆ ซึ่งข้อดีของหนังสือแชนน่อนมีอยู่อย่างหนึ่งว่าผู้ร้ายของเธอจะเปิดเผยตัว เองออกมาแทบจะต้นเรื่องเป็นอันว่าตัดปัญหาไปนะคะไม่ต้องเดากันให้เมื่อยสมอง แต่การพบกันของพระเอกและนางเอกในครั้งแรกเรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้เรา มากค่ะ แต่คิดอีกทีก็เหมาะและสอดคล้องกันดีกับอาชีพพระเอกดี
แอ๊บบี้ ทำกุญแจหล่นหายระหว่างทางกลับจากเดทสุดห่วยเพราะคู่นัดของเธอเมาและลวนลาม เธออย่างหยาบคาย แอ๊บบี้จึงโทรตามช่างทำกุญแจซึ่งเขาก็โผล่มาช่วยเหลือเธอให้รอดพ้นจากการจวน แจถูกคู่นัดข่มขืนพอดี แซนเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าค่ำคืนอันน่าเบื่อของเขากำลังจะสิ้นสุดลงตอนที่ได้ รับโทรศัพท์ให้ไปเปิดล๊อคกุญแจบ้านลูกค้าซึ่งมันก็เป็นเหตุการณ์ที่เขาเจอ บ่อย ๆ ในเวลาดึกดื่นและการได้ช่วยแอ๊บบี้จากการถูกทำร้ายดูเหมือนว่าเธอจะไว้ใจเขา มากพอที่แซนกล้ายื่นข้อเสนอแสนเจ้าเล่ห์เพทุบาย
แอ๊บบี้มีสเปคฝังใจกับหนุ่มแบดบอยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแต่ก็มีหลายครั้ง ที่ทำให้เธอเข็ดขยาดเพราะมันมักจะลงเอยด้วยหายนะจนชีวิตเธอตกต่ำถึงขีดสุด เมื่อเธอพบว่าช่างทำกุญแจของเธอเป็นหนุ่มมาดเซอร์สุด ๆ ตรงตามสเปคเป๊ะ ๆ แอ๊บบี้ก็ตั้งปนิธานในใจว่าเธอจะไม่ผลีผลามทำอะไรโดยไม่คิดให้รอบคอบเสีย ก่อน แอ๊บบี้จึงตัดปัญหาด้วยการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของผู้ชายที่เธอจะคบใหม่มอง หาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน ปลอดภัยและมั่นคงมีรสนิยมสูงแทน และเธอก็เปิดเผยกับแซนตรง ๆ ซึ่งทำให้แซนรู้สึกเหมือนถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรี แต่เขาก็ไม่ละความพยายาม คิดแผนใหม่ โน้มน้าวให้เธอรับเขาเป็นคู่นอนลับ ๆ เสมือนเขาเป็นของเล่นสนุก ๆ เขาจะไม่เป็นเจ้าของเธอ ไม่แตะต้องเงินของเธอ แอ๊บบี้จะมีอิสระทุกอย่าง ถ้าเพียงแค่เธอกระดิกนิ้วเรียก จนกว่าเธอจะเบื่อหรือพบผู้ชายที่สมบูรณ์แบบสำหรับเธอแล้ว ถึงตอนนั้นแอ๊บบี้ก็สามารถถีบหัวส่งเขาไปจากเธอได้ แซนจะเป็นคนที่แบกรับความเจ็บปวดเสียใจเอง ดูแล้วก็เหมือนแซนจะเจียมเนื้อเจียมตัวนะเพราะเขาไม่พยายามแสดงให้แอ๊บบี้ รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่เธอจะรับมือด้วยยากมากแค่ไหน  แต่เมื่อจู่ ๆ มีชายหล่อเหลาร่ำรวยมหาศาลประกาศตัวเป็นผู้บริจาครายใหญ่ให้พิพิธภัณฑ์โผล่ ขึ้นมา ซึ่งก็มีคุณสมบัติที่สมบูรณ์แบบตรงตามสเปคของแอ๊บบี้อีกทั้งเธอต้องกลายเป็น คู่นัดของเขาในงานเปิดตัวโครงการแสดงสมบัติของสเปนด้วย กฎที่แซนจะไม่แสดงความเป็นเจ้าของเธอก็เริ่มสั่นคลอนเสียแล้ว
ตามที่บอกไว้ตอนต้นค่ะผู้ร้ายเปิดตัวโจ่งแจ้งเลยไม่มีปิดบังและเราซูฮกแช นน่อนมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะตรงเขียนบุคลิกของผู้ร้ายได้เลวชนิดสุดขั้วมาก ทำให้เราเกลียดและเครียดมาก ๆ เวลาที่พระเอกตามเกมส์ไม่ทัน ตำรวจในเรื่องนี้ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง ขี้เกียจทำงานค่อด ๆ ขนาดนางเอกใช้เวลาไม่ก็ชั่วโมงเองก็ยังได้เงื่อนงำมาตั้งเยอะแยะ
โดยรวมก็สนุกนะคะ ถึงแม้จะเจอความหละหลวมของพลอตอยู่หลายอย่าง พระเอกเรื่องนี้ดูเป็นมนุษย์เดินดินธรรมดา ๆ ใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาในบางครั้ง เฉลียวน้อยไปหน่อยในบางเวลา แต่ก็ดูเป็นพระเอกที่จับต้องได้ค่ะ

คะแนนความพอใจ 7+

ไม่มีความคิดเห็น: