หนังสือเล่มนี้เป็นการรวมนักเขียนสี่คนเรื่องสั้นสี่เรื่องค่ะ ซึ่งปกติแล้วเราจะแทบไม่เห็นสนพ.แปลโรมานซ์ลักษณะนี้ออกมาให้อ่านกันนะคะข้อดีเราว่ามันทำให้เรารู้จักนักเขียนใหม่ ๆ ข้อเสียก็คือว่าถ้าอ่านแล้วถูกใจมันก็สั้นไปหน่อยทำให้อยากอ่านเล่มยาวแต่ก็ขึ้นกับฝีมือคนแต่งล่ะค่ะว่าเจ๋งพอที่จบเรื่องได้ดีแค่ไหน
สนพ.แก้วกานต์
Dead After Dark///จิตอุษา ผู้แปล
An omnibus of novels by
Sherrilyn Kenyon, Dianna Love, Susan Squires and J R Ward
วีรบุรุษจันทรา (Shadow of the Moon)/SHERRILYN KENYON
เป็นเรื่องสั้นในชุด พรานราตรี เรื่องราวของฟิวรี่พี่น้องร่วมฝูงสุนัขป่าของแฟ็ง พระเอกเล่มใต้เงาพระจันทร์ ซึ่งเหตุการณ์เกิดในเวลาใก้ลเคียงกัน อ่านต่อกันได้เลยค่ะ
ฟิวรี่สุนัขป่า คาตากาเรีย (สัตว์ที่เปลี่ยนไปเป็นมนุษย์) และแองเจเลีย อาร์คาเดียน (มนุษย์ที่เปลี่ยนไปเป็นสัตว์) ในอดีตเคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน แต่เมื่อสงครามระหว่างสองฝูงสุนัขป่าระเบิดขึ้น ทั้งคู่กลายเป็นศัตรูกัน ผ่านไปสี่ร้อยปี ฝูงสิงโต คาตากาเรีย ถูกทำร้ายด้วยอาวุธที่อาร์คาเดียนคิดค้นขึ้น อาวุธนี้สามารถกักขังพวกเขาไว้ในร่างของสัตว์อย่างถาวรและปลดพลังวิเศษของพวกเขาได้ด้วย
เมื่อแองเจเลีย กลายเป็นผู้ต้องสงสัยและถูกฝูงสิงโตตามล่า ฟิวรี่ก็ไม่อาจเพิกเฉยได้ถึงแม้แองเจเลียเคยทรยศต่อความไว้เนื้อเชื่อใจเขาถึงสองครั้งสองครา ประเด็นนี้ค่อนข้างคาใจเรามากค่ะ พ่อของฟิวรี่สังหารครอบครัวแองเจเลียตั้งแต่เธออายุได้สามขวบ เธอมีความเชื่อและฝังใจถึงความโหดร้ายไม่นับถือในเพศหญิงของ คาตากาเรียมาตลอดชีวิต ฟิวรี่เองก็โกรธแค้นแองเจเลียมากเสียจนเราคิดว่าเขาคงไม่มีวันให้อภัยเธอได้ การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในทัศนคติของคาตากาเรียและความโกรธของฟิวรี่ ที่ให้อภัยเธอ ง่ายดายจนมันขาดความน่าเชื่อถือไปหน่อย
คำร่ำลือที่ว่าเชอริลีนมักเขียนช่วงท้ายของหนังสือออกทะเลและตกม้าตายตอนจบ เล่มนี้ตอกย้ำให้เราเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ
คะแนนความพอใจ 5/10
ทายาทแวมไพร์ (The Story of Son)/J.R. WARD
เรายอมรับว่าที่ซื้อหนังสือเล่มนี้มาเพราะอยากอ่าน เจอาร์ เขียนค่ะ ถึงแม้จะมีความยาวแค่ร้อยกว่าหน้าก็ตาม
โดยปกติแล้วผู้หญิงบ้างานอย่างแคลร์มักไม่เสียเวลาไปหาลูกความถึงบ้านแต่มิสลีดส์วัยเก้าสิบเอ็ดปีคนนี้เป็นกรณีพิเศษ มิสลีดส์ผู้ซึ่งมักใส่ใจเป็นพิเศษกับการครองตัวเป็นคนโสดของเธอ พ่อของเธอเป็นทนายความของมิสลีดส์มานานแสนนาน หลังจากพ่อตายแคลร์ก็รับช่วงต่อ
การพบมิสลีดส์ครั้งนี้เปลี่ยนชีวิตแคลร์ไปตลอดกาล เมื่อเธอพบว่าถูกลักพาตัวไปอยู่ในห้องใต้ดินลึกลับ และกำลังถูกแวมไพร์คนหนึ่งดื่มกิน แต่นางเอกเรื่องนี้สุดยอดมากค่ะ แคลร์พบว่าตลอดห้าสิบปีที่ผ่านมา ไมเคิล(เขาไม่ชื่อหรอกค่ะ แคลร์เป็นคนตั้งชื่อให้) ซึ่งเป็นลูกชายของมิสลีดส์ถูกขังในห้องใต้ดินมาตลอด และทุก ๆ หนึ่งปี จะมีหญิงสาวถูกลักพาตัวมาที่นี่เพื่อให้เขาดื่มกิน แต่ครั้งนี้มิสลีดส์ทำพลาดเสียแล้ว พลาดอย่างยิ่งที่ประเมินแคร์ลต่ำไป
พระเอกในเรื่องนี้มีทุกสิ่งที่หนุ่ม ๆ จาก BDB มีค่ะ ความทุกข์ทรมานที่ถูกกักขังอยู่ในห้องใต้ดินถึงห้าสิบปี หยิ่งในเกียรติของแวมไพร์ แต่ที่ต่างออกไปเห็นชัดเจนว่าไมเคิล เป็นแวมไพร์ที่อ่อนโยนและขี้อาย คงต้องอ่านกันเองค่ะ แต่บอกตรงนี้ได้เลยว่าไมเคิลน่ารักมาก น่ารักจริง ๆ ส่วนนางเอกคาแรคเตอร์ของเธอทำให้เรานึกถึงเจน นางเอกเล่มของวิชั่น ค่ะ
ถึงแม้จะมีคำถามมากมายที่คาใจในตัวของไมเคิล และเจอาร์ คงรู้ใจคนอ่าน เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่จบแบบห้วน ๆ ที่อ่านแล้วทำให้เสียอารมณ์แต่กลับทำให้เราอยากรู้ต่อไปอีกค่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกในอนาคต สั้นแต่เต็มอิ่มค่ะ
คะแนนความพอใจ 10/10
ราตรีพิศวง///Seize the Night'/Susan Squires
ดรูว์ คาร์โลว์ กลับมาหาคนรักเก่าหลังจากที่เขาจากไปถึงสิบห้าปีเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว ตอนนี้เขาร่ำรวยมากพอที่จะขอเอมิลี่แต่งงานและแก้แค้นพ่อของเธอที่เคยกีดกันเขา แต่ทุกอย่างผิดแผนไปหมดเมื่อเขาพบว่าเอมิลี่ตายหลังจากเขาจากไปเพียงปีเดียวและคฤหาสที่เขาพึ่งซื้อมันกลับไม่ใช่ของเขาอย่างแท้จริง หนำซ้ำยังมีหญิงสาวคนหนึ่งอาศัยอยู่ก่อนแล้วด้วย
เฟรยา เป็นแวมไพร์ที่เกิดจากมีปรสิตชนิดหนึ่งอยู่ในเลือดของเธอ ซึ่งเรียกว่า คอมเพเนียน เจ้าคอมเพเนียนนี่เองที่ทำให้เธอมีพลังมหาศาล และใช้ฝึกฝนผู้ชายในเผ่าพันธ์ที่ได้รับเลือกให้มีพลังอำนาจมากขึ้น พวกเขาจะกลายเป็นอาวุธที่พ่อของเธอซึ่งเป็นแวมไพร์อาวุโสสูงสุด ใช้ต่อต้านใครก็ตามที่มารุกรานพวกเขาจนกระทั่งวันหนึ่ง พ่อของเธอสั่งให้เธอกับน้องสาวไปฆ่าแวมไพร์ที่เฟรยาเคยฝึก เธอจึงได้รู้ว่าการฝึกสอนกลับยิ่งทำให้พวกเขาทุกข์ทรมาน จนควบคุมตนเองไม่ได้ เธอจึงหลบหนีพ่อของเธอมาจนได้พบกับดรูว์ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบ้านของเธอ
คู่นี้เคมีกันรวดเร็วทีเดียวค่ะ นั่นเพราะคอมเพเนียนของเฟรยาจะกระตุ้นให้เธอมีแรงปรารถนามากขึ้น ซึ่งประเด็นนี้เป็นพลอตที่เราไม่ชอบอย่างแรงของนางเอกเรื่องนี้ค่ะ
คะแนนความพอ 3/10
จุมพิตเที่ยงคืน///Midnight Kiss Goodbye/Dianna Love 's
. เมื่อแปดร้อยปีก่อน ผู้นำของเบลาดอร์และคูจู ประกาศยุติสงครามนองเลือดระหว่างกัน เทพีมาช่าของเบลาดอร์ทำความตกลงกับพระศิวะ ผู้นำนักรบของคูจู ด้วยการกำจัดเบลาดอร์ที่เป็นชายเหลือไว้เพียงเด็กรุ่นหลัง ๆ ให้มีชีวิตอยู่แต่พวกเขาต้องยึดต่อคำสาบานแห่งเกรียติของเบลาดอร์ ส่วนพระศิวะก็ส่งพวกคูจูที่ยังมีชีวิตลงไปอยู่ใต้เขาพระสุเมรุ โทษฐานที่ไปสาบานเป็นพันธมิตรกับราวาณะ เทพกึ่งอสูรที่พระศิวะเชื่อว่าได้ฆ่าไปหมดแล้ว
บัดนี้เมื่อซาช่าคนรักเก่าที่เทรย์เคยเดินจากไปเมื่อเก้าปีก่อนกำลังตกอยู่ในอันตราย จากนักรบคูจูเก่งฉกาจคนหนึ่งที่หนีรอดจากใต้เขาพระสุเมรุมาได้ เพื่อความปลอดภัยของซาช่า เขาต้องหวนกลับมาเพื่อปกป้องเธอ ซึ่งอาจจะทำให้สงครามของทั้งสองฝ่ายระเบิดขึ้นอีกครั้ง
เรื่องนี้เริ่มต้นได้น่าติดตามมากค่ะ เทรย์เป็นนักรบเบลาดอร์ ที่ต้องปกปิดตัวตนที่แท้จริงจากซาช่า ตามกฏของหน่วยไวเปอร์ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เฝ้าระวังและปกป้องโลกจากนักล่าเหนือธรรมชาติทั้งหลายส่วนซาช่าเป็นแม่มดที่สืบเชื้อสายมายาวนาน เธอกำลังตามหาจอมขมังเวทย์ตนหนึ่งเพื่อนำตัวมาเยียวยาพี่สาวของเธอ จากการเกิดอาการคุ้มคลั่ง แต่เธอไม่รู้ว่ากำลังตกเป็นเป้าหมายของจอมขมังเวทย์คนนั้นเสียเอง จนกระทั่งเทรย์เดินเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้ง
ความสัมพันธ์ของคู่นี้เรียบ ๆ ค่ะ ซาช่ายอมรับการกลับมาของเทรย์ได้อย่างง่าย ยอมแม้จะรู้ว่าเทรย์อาจเดินจากเธอไปอีกครั้ง เราชอบพลอตของเรื่องนี้มากกว่าพระนางเอกค่ะ มีประเด็นที่น่าสนใจ คนแต่งเปิดตัวละครเยอะ น่าเสียดายว่าโผล่กันมามากเสียจนตอนจบของเรื่องทำให้พระเอกด้อยฝีมือไปเลย
คะแนนความพอใจ 5/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น