27 กันยายน 2554

ล่ารักพิทักษ์เธอ - Woman On The Run By Lisa Marie Rice


หลายวันที่ผ่านมาได้อ่านนิยายสนุก ๆ  สามเล่มติด ๆ กันเลยรู้สึกหึกเหิมมากพอที่จะหยิบหนังสือชองลิซ่า มารี ไรซ์ เล่มแปลเรื่องล่าสุดมาอ่านค่ะ หลังจากที่เคยฮือฮากันทั่วบ้านทั่วเมืองมาแล้วจากชุด  Midnight Series (เว่อร์ไปมั๊ยเนี่ย แต่ถ้าใครได้อ่านชุดนี้แล้วจะเข้าใจนะเราหมายถึงอะไร)  เราเขียนไว้แล้วค่ะตามไปอ่านกันได้ โดยคลิ๊กแทคด้านล่างชื่อผู้แต่งค่ะ



ล่ารักพิทักษ์เธอ - Woman On The Run By  Lisa Marie Rice 
แปล : รำภาสะหรี  สำนักพิมพ์ : คริสตัลพับลิชชิ่ง 

เรื่องนี้เป็นเล่มเดี่ยวของลิซ่า มารี ไรซ์ เขียนหลังจากที่สองเล่มแรกชุดมิดไนท์ขายไปสองเล่มค่ะ เข้าไปดูเว็บของเธอเลยรู้ว่าลิซ่าเขียนหนังสือปีละเล่มเท่านั้นเอง
เปิดเล่มมาก็กล่าวถึงนางเอกของเรื่อง จูเลีย เดอโวซ์ ถูกศาลสั่งกันตัวเป็นพยานจากที่เธอไปเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมของมาเฟียเข้าโดย บังเอิญ ตามแผนการโครงการคุ้มครองพยานแล้วมันส่งผลให้เธอต้องระเห็จไปอยู่ในเมือง เล็ก ๆ โดยมีคำประกาศล่าตัวเธอของโดมินิค ซานตาน่า เป็นเงินรางวัลฆ่าปิดปากถึงหนึ่งล้านเหรียญตามหลังมาติด ๆ
จูเลีย ต้องเริ่มต้นตัวตนใหม่ภายใต้ชื่อแซลลี่ แอนด์เดอเซ่นรวมถึงอาชีพใหม่ ประวัติใหม่ มีชีวิตประจำวันด้วยการเป็นครูสอนเด็กประถม เธอรู้สึกผิดที่ผิดทางซึ่งไม่ใช่เธอเลยที่ต้องมาจมปลักในเมืองที่ห่างไกล ความศิวิไลซ์ แต่อาการโหยหาความสุขเก่า ๆ ในเมืองใหญ่ถูกขจัดไปได้อย่างรวดเร็วเมื่อจู่ ๆ แซม คูเปอร์ มาพบเธอพร้อมจดหมายที่ จูเลียเขียนไปถึงผู้ปกครองแสดงความกังวลกับพฤติกรรมลูกศิษย์เธอคนหนึ่ง การเจอกันครั้งแรกของคู่นี้วุ่นวายพอสมควรค่ะ เพราะแซมไม่ได้เป็นแค่เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์แต่เขาเป็นอดีตหน่วยจู่โจมพิเศษ หรือที่รู้จักกันดีว่าซีล รูปร่างลักษณะและท่าทางดุดันของเขาจึงทำให้จูเลียเข้าใจผิดคิดว่าแซมเป็นนัก ฆ่ามาเด็ดหัวเธอ
อย่างที่บอกไว้ค่ะว่าจูเลียเริ่มไม่รู้สึกว่าตัวเองสูญเสียทุกสิ่ง ทุกอย่างในชีวิตไปหลังจากที่ได้พบแซม เพราะเธอมีเขาคอยป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ ๆ ดึงดูดให้จิตใจเธอไขว่เขว้ได้มากกว่า ส่วนแซมอดีตทหารหน่วยซีลที่หันมาเอาดีกับอาชีพทำฟาร์มปศุสัตว์ซึ่งเป็นมรดก ตกทอดมาหลายร้อยปีของครอบครัว หลงรักจูเลียแทบจะแว่บแรกที่เห็นหน้าเธอ จูเลียไม่รู้ตัวเลยว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวในรอบระยะเวลาสองปีที่ทำให้เขา โล่งอกเลิกกังวลว่าตัวเองเป็นกามตายด้านรึเปล่า นอกจากนั้นเธอก็เหมือนแม่พระมาโปรดในครัวของเขาตลอดเวลายาวนานที่ไม่เคยมี ผู้หญิงคนไหนทนอยู่ในฟาร์มของเขาได้นานพอ
ระหว่างที่ความสัมพันธ์ของแซมและจูเลียเป็นไปได้ด้วยดี นักฆ่าล่าเงินรางวัลก็คืบคลานเข้ามาใกล้จะได้แหล่งกบดานของจูเลียมากยิ่ง ขึ้นทุกที แต่อยากจะบอกว่าเราโคตรจะรำคาญคาร์แรคเตอร์ที่คนแต่งสร้างภาพให้มือปืนล่า สังหารคนนี้มีรสนิยมสูงลิบลิ่วทั้งเรื่องอาหารและจิบเครื่องดื่มแพง ๆ ขณะฟังดนตรีคลาสสิคชั้นสูง มันไม่ได้เกื้อหนุนให้เรารู้สึกว่านักฆ่าคนนี้น่ากลัวแต่อย่างใดเลย
บรรยากาศส่วนใหญ่ในเรื่องจะคล้าย ๆ กับพลอตรักของหนุ่มสาวที่เกิดขึ้นในเมืองเล็ก ๆ ชุมชนที่อบอุ่นและช่วยเหลือกันแต่ก็หนีไม่พ้นความอยากรู้อยากเห็นที่ใครทำ อะไร ที่ไหน ไม่เคยรอดพ้นสายตา ซึ่งพลอตก็ค่อนข้างโอเคสำหรับเรานะคะชอบประเด็นที่นางเอกถูกส่งมาอยู่ในถิ่น ที่บังเอิญมีอดีตทหารหน่วยจู่โจมพิเศษอาศัยอยู่ แถมยังเป็นพระเอกที่ชอบปกป้องมาก ๆ ซะด้วยซึ่งก็มีบางฉากเหมือนกับว่าคนแต่งจงใจให้หนังสือออกโทนคอมเมอดี้นิด ๆ ด้วย
ปิดท้ายด้วยสำนวนแปล ชื่อนักแปลใหม่ บางประโยคเรียงคำวกวน หรือเรียงเป็นประโยคที่อ่านแล้วเข้าใจยากทำให้ต้องอ่านทวนซ้ำ  มีเขียนสลับ พิมพ์ตกบ้างประปราย แต่บางประโยคก็สื่อสารได้ดีค่ะ


คะแนนความพอใจ 6+

ไม่มีความคิดเห็น: