6 กรกฎาคม 2553

อัศวินแห่งกาลเวลา///Linda Howard


หายหน้าหายตาไปหลายวันเลยค่ะ เนื่องจากสภาวะวิกฤติเหตุการบ้านเมืองเราเลยเฝ้าติดตามข่าวเป็นห่วงเพื่อนที่อยู่ต่างจังหวัดที่นั่งทำงานในศาลากลางที่ถูกเผาด้วย เรามีเพื่อนหลายคนเลยค่ะที่อยู่ที่นั่น เพื่อนเล่าว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้แต่ยืนห้ามค่ะ ไม่ได้ทำอะไรเล้ย สลดใจจริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าเมืองไทยจะเป็นไปได้ขนาดนี้ กลับมาหาที่นิยายโรมานซ์เรื่องนี้กันดีกว่า อัศวินแห่งกาลเวลา เป็นแนวเหนือจริงของลินดาที่มีไม่กี่เล่มนะคะที่เธอเขียนออกมา เรื่องนี้แบ่งออกเป็นสองภาคค่ะ ภาคแรกจะเป็นเรื่องราวของนางเอก เกรซ เซนต์จอห์น ผู้เชี่ยวชาญการแปลภาษาโบราณต่าง ๆ ส่วนภาคสองจะเข้าสู่ช่วงที่พระเอกนางเอกได้พบกันค่ะ


ลินดา โฮเวิร์ด (Son Of the Morning )



ในปี 1307 ไนออล แห่งสกอตแลนด์ นักรบผู้ดุดัน เก่งฉกาจไร้ผู้เทียมทาน ได้รับการคัดเลือกจากผู้นำของอัศวินเทมปลาร์ให้เป็นผู้ปกป้องคุ้มครองทรัพย์สมบัติให้ปลอดภัย ไนออลเป็นนักรบเทมปลาร์ที่ถูกขับไล่ออกมาจากศาสนาและมีคำสั่งจากพระสันตะปะปาให้ประหารชีวิตทันทีที่จับตัวได้ แต่เขาได้รับการช่วยเหลือให้ลี้ภัยในครีกดู โดยกบัตริย์แห่งสกอตแลนด์ ชีวิตของไนออลถูกปิดเป็นความลับและจะต้องไม่มีใครรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่


ปี 1996 เกรซ เซนต์จอห์น ผู้เชี่ยวชาญด้านเอกสารโบราณ ทำงานให้กับมูลนิธิอมาแรนทีน โปเตอรีน มูลนิธิด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์โบราณ เธอกำลังแปลเอกสารเกี่ยวกับ อัศวินเทมปลาร์ งานนี้แตกต่างออกไปสำหรับเธอ เกรซ รู้สึกว่าเธอกำลังถูกดึงดูดให้จมเข้าไปในเอกสารเหล่านั้น กระสับการะส่ายเกินกว่าจะเข้าใจ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันเป็นความรู้สึกแรงกล้าที่เธอก็ไม่อาจหาคำมาอธิบายได้ แต่เมื่อคอมพิวเตอร์ที่เธอใช้ทำงานเกิดปัญหาไม่สามารถเชื่อมต่อกับห้องสมุดได้ เกรซจึงขอความช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มข้างบ้านเพื่อตรวจสอบโมเด็มของเธอ

เมื่อเกรซกำลังเดินกลับเข้าบ้านอีกครั้งพร้อมกับคอมพิวเตอร์ เธอก็เห็นคนอันเป็นที่รักของเธอถูกพาร์ริช ซอร์เยอร์ นายจ้างของเธอยิงตายไปต่อหน้าต่อตา เกรซต้องหนีค่ะ เพราะเธอแอบได้ยินพาร์ริชพูดถึงเอกสารที่เธอกำลังแปลอยู่ เขาต้องการครอบครองมันและจะฆ่าทุกคน เขาจะปรักปรำเธอว่าเธอเป็นคนลงมือฆ่าเสียเอง เกรซเก็บบันทึกทั้งหมดของเธอไว้ในคอมพิวเตอร์ เธอจะแปลมันต่อไป และจะกลับมาแก้แค้นพาร์ริชทีหลังเมื่อเธอแปลเอกสารทั้งหมดเสร็จสิ้น

หลังจากนั้นก็จะเป็นฉากที่เกรซต้องหนีตายจากการตามล่าคนของพาร์ริชและตำรวจ ซึ่งลุ้นระทึกมาก วันแรก ๆ ในการหนีของเธอ เกรซต้องเดินเท้าจากเมืองหนึ่งไปเมืองหนึ่ง เกรซต้องปลอมตัว เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนที่อยู่ และทำงานด้วยค่าแรงที่ต่ำ เกรซเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมากค่ะถึงแม้เธอจะเป็นแค่นักโบราณคดีเชย ๆ แต่ก็เฉียบแหลมมากสามารถเอาตัวรอดจากผู้ร้ายที่ไล่ล่าเธอได้ เกรซแกร่งขึ้น กล้าหาญมากขึ้นกว่าเดิม ในแต่ละวันเวลาที่ผ่านไป เกรซได้รู้จักเพื่อนแท้อย่างฮาร์โมนีหญิงเจ้าของบ้านที่เช่าอยู่ และแมตตี้ที่ช่วยสอนเธอให้รู้จักการต่อสู้แบบป้องกันตัวตามท้องถนน เธอได้เรียนรู้วิธีว่าควรเตะต่อยที่ไหน และคว้าสิ่งของใดที่พอจะเป็นอาวุธได้ เกรซได้เรียนรู้วิธีเอาตัวรอดตามท้องถนนและระหว่างการหลบหนีอย่างมากมาย มันเป็นของขวัญที่ฮาร์โมนีมอบให้เธอ

นี่เป็นส่วนที่สนุกที่สุดในหนังสือที่เราได้อ่านในเรื่องนี้ค่ะ ลินดาเก่งนักล่ะที่จะเปลี่ยนบุคคลิกนางเอกที่แสนธรรมดาให้แกร่งกล้า เพราะสถานการณ์บังคับ นางเอกที่ไม่ยอมแพ้แก่โชคชะตา มันทำให้เรานึกถึงแมรี่ ครูสาวที่อยู่ในกรอบแห่ง เจ้าภูผา และ มิลล่าแม่ที่รักลูกสุดหัวใจ และยอมทำทุกอย่างเพื่อสืบหาลูกที่ถูกขโมยไป แห่ง หัวใจกำสรวล

ที่ต้องลุ้นอีกเรื่องหนึ่งคงเป็น เมื่อไหร่พระเอก นางเอก เรื่องนี้จะได้เจอกันซะที ใครที่ติดตามอยู่คงทราบแล้วว่า พระเอก นางเอก กว่าจะเจอกันก็ปาเข้าไปที่หน้าสามร้อยกว่า ๆ และอยู่ในภาคสองของเล่มด้วยค่ะ ในระหว่างที่
เกรซหนีอยู่นั้นเธอก็แปลเอกสารไปด้วยค่ะ เธอเริ่มรับรู้และสัมผัสได้ถึงตัวตนที่มีอยู่จริงของไนออล ผ่านทางความฝัน มันไม่เคยลดน้อยถอยลงเลย ความหลงใหลคลั่งไค้ลของเกรซทวีมากขึ้นทุก ๆ วัน เพิ่มขึ้นตามทุกหน้าเอกสารที่อ่าน รู้สึกเหมือนเธอได้ยินเสียงของเขา ตอบโต้เธอ มันเป็นเหมือนสายใยบาง ๆ ของไนออลและเกรซที่เชื่อมโยงคนทั้งคู่ที่ต่างรับรู้ว่ามีกันและกันไนออลเองก็รู้สึกถึงเกรซได้และเขาสาบานว่าต้องตามหาตัวเธอให้พบให้ได้

ในที่สุดเมื่อเกรซแปลเอกสารภาษาเกลิค พบเงื่อนงำบางอย่างที่เกี่ยวกับการเดินทางข้ามกาลเวลาของอิศวินเทมปลาร์เธอก็ตระหนักได้ว่ามันมีพลังอำนาจบางอย่างอยู่จริง มันเป็นสาเหตุที่ผลักดันให้เธอแปลมัน
เกรซจะต้องไปครีกดู เมื่อ 675 ปีก่อน เพื่อแจ้งให้ไนออลย้ายสมบัติไปที่อื่น เมื่อเธอพลาดระหว่างการหนีทำเอกสารบางอย่างที่บอกที่อยู่ของสมบัติตกไปอยู่ในมือของพาร์ริช

การพบกันครั้งแรกของทั้งคู่ เป็นแรงดึงดูดใจที่ร้อนแรงมาก ๆ แต่ไนออลใช่ว่าจะไว้วางใจเกรซ เขาหวาดระแวงเธอ คิดว่าเกรซเป็นสายลับมาจากอีกเผ่าซึ่งเป็นศัตรูของเขาแต่เมื่อศัตรูของไนออลบุกปราสาทของเขา เกรซก็มีส่วนช่วยเหลือผู้คนของเขา ทำให้เขาเริ่มเชื่อใจเธอ เกรซจึงสารภาพว่าเธอมาจากปี 1997 เพื่อมาค้นหาสมบัติและใช้มันเพื่อการแก้แค้นและ เธอรู้ว่าเขาเป็นผู้พิทักษ์ เกรซให้เขาดูหนังสือที่เธอนำมาด้วยไนออลไม่ตกใจ ไม่รู้สึกว่าเหลือเชื่อ ค่ะเขาทำตัวเหมือนกับมันเป็นเหตุการณ์ปกติในชีวิตประจำวันที่เกิดบ่อย ๆ ด้วยซ้ำ

โดยรวมแล้ว ถึงแม้ไนออล และเกรซจะพบกันช้าไปสักหน่อย ถ้าเปรียบเทียบกับนิยายโรมานซ์เรื่องอื่น ๆ แต่สำหรับเราแล้วมันค่อนข้างคุ้มค่าในการรอคอย มันเป็นการพบกันที่ล่าช้าแบบมีเหตุผล สามร้อยกว่าหน้าเทียบเท่าเวลาหนึ่งปี นับจากคนอันเป็นที่รักของเกรซถูกฆ่าตาย และเมื่อทั้งคู่พบมันก็ชดเชยเวลาก่อนหน้าได้เลยล่ะ อีกอย่างเราประหลาดใจมากกับฉากท้ายเล่มที่ลินดาหักมุมได้เด็ดขาดจริง ๆ



คะแนนความพอใจ 8/10

ไม่มีความคิดเห็น: