28 มกราคม 2554

สุภาพบุรุษผู้พิทักษ์ (Lover Enshrined)/ J.R. Ward



เราไม่ได้คาดหวังความสนุกในเล่มของฟิวรี่มากนักค่ะหลังจากได้อ่านเล่มที่ดีที่สุดไปสองเล่มจากชุด The Black Dagger Brotherhood ในเล่มของซีและวิชั่น ไปแล้ว แอบหวังไว้นิดหน่อยว่าคงมีฉากเจนและวิชั่นออกมาบ้างหลังจากที่ทำเราเสียน้ำไปไม่น้อยจากเล่มที่ห้า


สุภาพบุรุษผู้พิทักษ์ (Lover Enshrined)/ J.R. Ward

สำนักพิมพ์: เกรซพับลิชชิ่ง จิตอุษา ผู้แปล

จากท้ายเล่มที่แล้ว ฟิวรี่ในฐานะเดอะพรูมาลีของผู้ได้รับเลือกจำนวนสี่สิบคนที่เขาต้องครองคู่และทำให้พวกเธอตั้งครรภ์เพื่อการดำรงอยู่ของเผ่าพันธ์และสร้างเหล่านักรบภราดรเพื่อต่อสู้กับดิโอเมก้า ผู้ต้องการทำลายล้างเหล่าแวมไพร์ คอร์เมียเป็นคู่ครองคนแรกของเขา ในวันที่มีการประกอบพิธีกรรมฟิวรี่พบว่าเธอถูกบังคับ และเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ทำให้เขาพาเธอมาไว้ที่คฤหาสน์ของกลุ่มภราดร ห่างไกลจากทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเคยคุ้นและเคยเป็น

ห้าเดือนต่อมา ฟิวรี่และคอร์เมียก็ยังเหมือนคนแปลกหน้าต่อกันพิธีกรรมการครองคู่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ฟิวรี่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่สามารถเพิกเฉยได้อีกแล้ว ในข้อตกลงที่เขาทำไว้ และเป็นหน้าที่ของคอร์เมียที่เธอต้องเตรียมใจที่จะทำมันร่วมกับเขาให้ลุล่วง อย่างไรก็ตามฟิวรี่กลับมีแต่นำความล้มเหลวที่น่าผิดหวังมาสู่เหล่าภราดร เขายอมรับตำแหน่งเดอะพรูมารีของหญิงผู้ได้รับเลือก แต่ไม่ทำตามพิธีกรรม จมปลักในรักที่ไม่สมหวังเกินไป ละเลยต่อคอร์เมีย และมัวเมากับยาเสพติดจนถอนตัวไม่ขึ้น

ฟิวรี่เป็นพระเอกที่บิดเบี้ยวและไม่สมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่เราเคยอ่านมาคนหนึ่งค่ะ เราเข้าใจที่เขารู้สึกเจ็บปวดที่ไม่สามารถตามหาและช่วยเหลือซี คู่แฝดได้เร็วพอ ฟิวรี่ลงโทษตัวเองในหลายวิธีเช่นการถือพรหมจรรย์ โดยเขาอ้างว่ามันทำให้เขาแกร่ง แต่คำพูดประโยคนี้ของคอร์เมีย ได้ใจเรามากในฉากที่เขาปฏิเสธเธอ น.373


“คุณสงวนตัวไว้ให้ใครกัน หรือจะพูดให้ถูกคือเพื่ออะไร เพื่อความเพ้อฝันที่คุณมีต่อเบลล่างั้นสิ นั่นคือที่หยุดคุณไว้ใช่มั๊ย ถ้าใช่ ฉันก็เสียใจแทนผู้ได้รับเลือก แต่ถ้าการถือพรหมจรรย์มีขึ้นเพื่อให้ใครเข้าถึงคุณไม่ได้และเพื่อให้คุณปลอดภัย ฉันก็ได้แต่เสียใจแทนคุณ ความเข้มแข็งนั่นคือการหลอกลวง”

และเมื่อเขาพยายามจะอธิบาย คอร์เมียสวนเขากลับไปว่า


“ ทำไมถึงต้องรอ จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปงั้นหรือ ไม่มีหรอก ไปอยู่กับคนอื่น ๆ เถอะค่ะ ถ้าคุณทำได้ แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ คุณก็ควรสละตำแหน่งเพื่อให้คนอื่นที่สามารถเป็นความเข้มแข็งของเผ่าพันธุ์ทำหน้าที่แทน” น. 374


ในอีกฟากฝั่งของกลุ่มภราดร มีประเด็นใหม่ให้ตามกันอีกครั้ง เมื่อดิโอเมก้าออกตามหาลูกชายวัยยี่สิบห้าปีซึ่งถูกเลี้ยงดูโดยแวมไพร์ ลูกชายของดิโอเมก้าคนนี้จะเป็นความหวังของเขาที่จะทำสงครามในรูปแบบใหม่ ด้วยการทำลายความมั่นคง สร้างความแตกร้าวให้เกิดการชิงอำนาจของสภาชั้นสูงของแวมไพร์เพื่อนำไปสู่การเล่นงานราธ ผู้เป็นกษัตริย์ ในฐานะผู้นำกลุ่มภราดร ลดทอนอำนาจของเขาให้ขาดการสนับสนุนของสภา ถ้าแผนของดิโมก้าสำเร็จในท้ายสุดราธอาจจะถูกปลด ถูกเนรเทศหรือถูกฆ่า

รูปแบบของเล่มนี้ยังคงสไตล์เดิมที่ตัดสลับฉากไปมาของตัวละครหลายคนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรฟ พี่ชายของเบลล่า เจ้าของบาร์ที่ทั้งค้ากามและยาเสพติด ซึ่งเล่มนี้เขากำลังถูกแบล็กเมล์ ภราดรเลือดใหม่จากสามหนุ่มจอห์น,ควินน์และเบลย์

ซึ่งได้เวลาเหมาะเจาะเมื่อพวกแลสเซอร์เริ่มจะพัฒนาฝีมือและกึ๋นให้ทันหนุ่มภราดรเสียที



คะแนนความพอใจ 8/10

ไม่มีความคิดเห็น: