จากที่ได้เล่าไปบ้างแล้วเกี่ยวกับโลกฮาร์โมนี่ในเล่มที่แล้วมาถึงเล่มที่สอง ผู้แต่งก็เปิดประเด็นอื่น ๆ ที่ทำให้เรารู้จักดาวดวงนี้มากขึ้นอีกค่ะ สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านเล่มหนึ่ง แนะนำว่าไม่ให้อ่านบล็อกของเรื่องนี้ค่ะเพราะอาจมี
สปอย์ลได้ ขอเตือนไว้ก่อนค่ะ
เมื่อสองร้อยปีก่อนสนามพลังลึกลับในอวกาศที่เรียกว่า เดอะเคอร์เทนได้เปิดขึ้น ประตูระหว่างโลกและโลกที่มนุษย์สามารถอยู่อาศัยได้อีกหลายดวงถูกนักบุกเบิกจับจองและสร้างบ้านใหม่บนดาวฮาร์โมนี่ แต่หลังจากที่พวกเขาสร้างเมืองได้ไม่นานนัก เดอะเคอร์เทนได้หายไปอย่างลึกลับ ทำให้พวกเขาต้องติดอยู่ที่นี่ เมื่อถูกตัดขาดจากโลก บรรดาผู้นำของอาณานิคมก็มุ่งมั่นกับการวางแผนที่จะให้พวกเขาอยู่รอดต่อไป
ชาวอาณานิคมที่เรียกว่า โลก ได้รู้ว่าบนดาวฮาร์โมนี่มีอัญมณีที่มีคุณสมบัติที่พิเศษ อำพันที่ทำให้มนุษย์สามารถรวบรวมสมาธิเพื่อใช้พลังจิตที่แฝงอยู่ เมื่อเวลาผ่านไปอีกรุ่นบรรดาลูกหลานของพวกบุกเบิกก็ได้แสดงให้เห็นถึงพลังจิตและสามารถควบคุมมันได้ด้วยการใช้อำพัน ฉะนั้นอำพันจึงกลายเป็นแหล่งพลังงานที่นิยมกันมาก ในชีวิตประจำวัน ในเล่มที่สองนี้จะเป็นการคลี่คลายปมปริศนาของลิเดียจากเหตุการณ์ที่ทำให้เธอสูญเสียความทรงจำไปสี่สิบแปดชั่วโมงค่ะ
ทิวาเรืองรอง (After Glow) by Jayne Castle
สนพ. แก้วกานต์ ผู้แปล: ญาดา
เอ็มเม็ตต์ ลอนดอน เป็นคนที่มีพลังจิตที่แข็งแกร่งในรูปแบบของนักล่าปิศาจหรือโกสต์ฮันเตอร์ เขามีพลังจิตและฝึกฝนในการกำจัดปิศาจซึ่งอยู่ในทางเดินใต้ดินของซากโบราณ โกสต์ฮันเตอร์เป็นสิ่งจำเป็นในคณะขุดค้น ประดุจบอดี้การ์ดมืออาชีพซึ่งถูกจ้างโดยกิลด์หรือองค์กรของโกสต์อันเตอร์ เพื่อคุ้มครองนักโบราณคดีสุสานใต้ดินเมืองเดดซิตี้ ลิเดีย สมิธ มีอคติมากเมื่อเป็นเรื่องของโกสต์ฮันเตอร์
เธอเป็นผู้มีพลังจิตพิเศษ ซึ่งสามารถกำจัดภาพลวงตาได้ เธอไม่สามารถเรียกปิศาจได้แต่เธอสามารถปลดกับดักจากภาพลวงตาซึ่งชนรุ่นก่อนได้ทิ้งไว้เพื่อปกป้องความลับที่อยู่ในซากโบราณ จากเหตุร้ายที่ลิเดียเรียกว่า สุดสัปดาห์แห่งการสูญเสีย เกือบทำให้เธอต้องตาย ที่เลวร้ายยิ่งเธอถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย จนต้องมาทำงานในพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ แทนและสร้างอาชีพใหม่เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวด้านวัตถุโบราณนับแต่นั้นเธอไม่เคยไว้ใจพวกฮันเตอร์อีกเลย
เจ็ดเดือนต่อมา เธอพบศพเป็นคนแรกอีกครั้ง คราวนี้เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยซึ่งได้ขอนัดพบเธอเพื่อบอกเบาะแสถึงเหตุการณ์โชคร้ายที่สุสานใต้ดินที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องออกจากงาน โดยมีเศษกระดาษชิ้นเล็ก ๆ มีข้อความลึกลับทิ้งไว้ให้เธอค้นหาสืบเรื่องราวย้อนกลับไปเมื่อสิบห้าปีที่แล้วและมันยังนำไปสู่การเปิดเผยความลับเมื่อกว่าร้อยปีก่อนอีกด้วย
เราให้คะแนนในส่วนของเนื้อหาการสืบสวนของเรื่องนี้มากกว่าความสัมพันธ์ของเอ็มเม็ตต์และลิเดียที่ผู้แต่งไม่ได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการความรักของคู่นี้มากไปกว่าเล่มแรกเลย มองในอีกแง่ก็คือผู้แต่งพยายามเทน้ำหนักไปที่ส่วนอื่นมากกว่าความเป็นโรมานซ์ค่ะ แต่ไม่ได้ทำให้เรื่องนี้อ่านแล้วน่าเบื่อเลยค่ะ เราชอบที่ผู้แต่งนำเรื่องของกลุ่มผู้นำลัทธิหัวรุนแรงที่เก่งในการโน้มน้าวใจคน ซึ่งพยามยามก่อกบฏ โดยจัดตั้งกองกำลังเพื่อยึดนครรัฐทั้งหมดบนดาวฮาร์โมนี่ พวกคลั่งลัทธิ มาจับเชื่อมโยงเข้าด้วยกันซึ่งค่อนข้างหักมุมทีเดียว โดยรวมแล้วถือว่าสนุกกว่าเล่มแรก ผู้แต่งค่อย ๆ ป้อนข้อมูลและประเด็นใหม่ให้เราอ่านซึ่งก็น่าติดตามมากค่ะ
คะแนนความพอใจ 7/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น