28 มกราคม 2554

อยากบอกว่ารัก (His Comfort and Joy) by Jessica Bird

อย่างที่บอกไว้ท้ายเรื่อง เริ่มต้นที่หัวใจค่ะ หลังจากอ่านจบ อาการอ่านเรื่องคิวต่อไปไม่ไปเอาซะเลยก็กำเริบอย่างที่หวั่น ๆ จนได้ เล่มที่อ่านไม่ไปก็คือเรื่องนี้ล่ะค่ะ


เมื่อวานวันอาทิตย์เราจึงเปลี่ยนแผนไปดูหนังเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ ภาค 7 แทนการนอนอ่านหนังสือที่บ้าน ซึ่งก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก ๆ สำหรับเราค่ะ

คำเตือน :ใครที่ยังไม่ได้อ่านเล่มแรกของชุดนี้ ข้อความบางตอนอาจเป็นสปอยล์นะคะ



อยากบอกว่ารัก (His Comfort and Joy) by Jessica Bird

นีลนารา / สำนักพิมพ์ สมใจบุ๊คส์

เล่มที่สองของชุด Moorehouse Legacy, เป็นเรื่องของจอย หญิงสาววัยยี่สิบเจ็ดซึ่งคง

เป็นที่รู้จักกันแล้วว่าเป็นน้องสาวของแฟรงกี้นางเอกเล่มแรก จอยเป็นนางเอกที่นักอ่านไทยน่าจะชอบเพราะเธอมีบุคลิกที่อ่อนหวาน เรียบร้อย เต็มใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว จอยช่วยพี่สาวทำกิจการร้านอาหารและดูแลของคุณย่าผู้มีภาวะสมองเสื่อม รวมไปถึงพี่ชายของเธอ อเล็กซ์ มัวส์เฮ้าส์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บอุบัติเหตุจากเรือ

ในตอนนี้หลังจากที่เนท ได้หมั้นกับแฟรงกี้รวมไปถึงได้เข้าร่วมลงทุนในร้านบีแอนด์บี ก็ทำให้ร้านของครอบครัวมัวส์เม้าส์หลุดพ้นจากภาวะหนี้สินรุงรังและฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือการทำอาหารของเนทรวมไปถึงสไปค์เพื่อนของเขาด้วยผลจากการที่จอยต้องคอยดูแลคุณย่าที่ยังยึดติดกับอดีตเมื่อสี่สิบห้าสิบปีที่แล้วสมัยที่ท่านเคยเป็นสตรีที่ได้ขึ้นลือชาชื่อเรื่องความงาม เธอจึงมีงานอีกอย่างหนึ่งคือต้องคอยดูแลชุดหรูหราต่าง ๆ ของคุณย่าเอ็มให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ตลอดเวลาทำให้จอยได้ค้นพบว่าเธอมีพรสวรรค์ด้านการออกแบบเสื้อผ้า

เกรย์ แบนเน็ต เป็นเพื่อนของครอบครัวมัวส์เฮ้าส์ ที่มีคฤหาสน์อยู่ในบริเวณใกล้ ๆ กันเขาเป็นชายหนุ่มผู้มีอิทธิพลในสภาคองเกรสของอเมริกา เป็นมันสมองชั้นยอดและกำลังหลักที่จะช่วยให้นักการเมืองสามารถชนะการเลือกตั้งและเป็นชายเพียงคนเดียวที่จอย มัวส์เฮ้าส์แอบหลงรักมานานหลายปี ผู้ชายคนเดียวที่เธอฝันว่าต้องการที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยแต่จอยไม่รู้ว่าเบื้องลึกของเกรย์เขาเป็นชายที่เกลียดและดูถูกผู้หญิง เพราะในอดีตที่เขาต้องคอยปกปิดไม่ให้พ่อรู้ถึงความสำส่อนมากชู้ไม่หยุดหย่อนของแม่ เกรย์จึงเป็นผู้ชายที่ไม่ยอมให้ความรักหรือผู้หญิงคนไหนมามีอิทธิเหนือเขาอย่างเด็ดขาดด้วยเชื่อว่าการแต่งงานเป็นเรื่องหลอกลวงระหว่างชายหญิงที่เขาต้องพยายามหลีกเลี่ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งจอย มัวส์เฮ้าส์ ผู้หญิงที่เขาไม่เคยปัดออกไปจากใจได้เลยในช่วงสองปีที่ผ่านมา

ด้วยความที่คู่นี้ใช้ชีวิตอยู่กันคนละเมือง เกรย์ซึ่งกลับมาเยี่ยมพ่อของเขาซึ่งป่วยเป็นอัมพฤต์แค่ช่วงฤดูร้อน ปีนี้เขาพาแคสซานดร้า ม่ายสาวสังคมชั้นสูงเพื่อนสนิทของเขามาด้วยภายหลังที่เธอพึ่งผ่านการสูญเสียสามีไปหมาด ๆ จากอุบัติหตุทางเรือพร้อม ๆ กับอเล็กซ์ พี่ชายของจอย ทำให้คาสซานดร้าได้เห็่นงานออกแบบเสื้อผ้าของเธอและชักชวนให้จอยเดินทางไปนิวยอร์กเพื่อร่วมงานด้วยกัน เป็นทางออกที่เเธอไม่อาจมองข้าม เมื่อจอยกำลังรู้สึกเจ็บปวดกับความเย็นชาของเกรย์ที่ปฏิบัติต่อเธอและเบื่อหน่ายกับชีวิตเดิม ๆ ของตัวเองที่ไม่เคยเดินทางจากบ้านไปไหนนับแต่พ่อแม่เสียชีวิต

จุดเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเกรย์และจอยมาบรรจบที่นิวยอร์กเมื่อการมาถึงของจอยกลับกลายเป็นว่าทำให้ทั้งคู่ต้องพบกันเกือบทุกวัน ยิ่งทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับจอยที่จะห้ามใจไม่ให้รักเขามากขึ้นว่าเดิมแต่พฤติกรรมของเกรย์ทำให้เราหงุดหงิดพอสมควรค่ะเราไม่เข้าใจว่าผู้ชายที่มีอาชีพเป็นที่ปรึกษาของนักการเมือง มีสมองเฉียบแหลมขนาดแก้เกมการเมืองในสภาของสหรัฐได้ทำไมถึงบื้อจนมองไม่ออกว่าจะจัดการกับหัวใจตัวเองยังไงดี เกรย์จึงเป็นพระเอกคนหนึ่งที่เราพบว่าปากไม่ตรงกับใจมากที่สุดคนหนึ่งเป็นจอยเสียอีกยอมเสี่ยงที่จะหันหลังเดินจากมาเพื่อต้องการทำให้เกรย์หัดเรียนรู้ที่จะไว้ใจและเชื่อใจเธอ

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ถือว่าสอบผ่านสำหรับเราค่ะ ในแง่ของคาแรคเตอร์นางเอกที่หาพบไม่ได้ง่าย ๆ ในหนังสือเล่มเล็กถ้าใครชอบลิชซี่ในเรื่อง หัวใจไม่ไร้รัก น่าจะชอบจอยเช่นกันค่ะ

ที่สำคัญหนุ่มฌอนในฐานะเป็นเพื่อนสนิทของเกรย์มีโผล่เข้ามาพอประมาณค่ะ ทำให้รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเล่มก่อนหน้าของเขาอีก

คะแนนความพอใจ 7/10

ไม่มีความคิดเห็น: