7 กรกฎาคม 2553

หักเหลี่ยมสังหาร-Betrayal in Death///J.D. Robb

หลังจากที่ซื้อเล่มนี้มาตั้งแต่งานหนังสือเมื่อเดือนตุลาคม 52 พึ่งจะได้หยิบมาอ่านค่ะ ทุกครั้งที่หยิบชุด indeath เล่มใดมาอ่านก็ตาม หลังอ่านจบเราจะเกิดความรู้สึกอย่างหนึ่งเสมอนั่นก็คือ ต้องการกลับไปอ่านเล่มแรกของ

ชุดนี้ทุกครั้งค่ะ ซึ่งระหว่างที่เขียนบลอกนี้เราก็อ่านเล่มหนึ่งค้างไว้อยู่ มันเป็นความรู้สึกที่ว่าเราอยากกลับไปหาคำตอบว่าทำไมโร้คและอีฟถึงได้รักกันและกันมากเหลือเกิน โดยเฉพาะโร้ค เราจะได้คำตอบเสมอค่ะว่า นอกจากหน้าตาที่โร้คหันกลับมามองอีฟเป็นครั้งที่สองเมื่อพบกันครั้งแรกที่งานศพแล้ว อีฟเป็นผู้หญิงที่เด็ดเดี่ยว ฉลาด ไม่พึ่งพาใคร และไม่เคยสนเงินของโร้คด้วย อีฟก็ตั้งคำถาม ๆ ตัวเองเสมอค่ะว่า โร้คมาเป็นของเธอได้ยังไง ความรู้สึกต่อมาหลังอ่านจบก็คือเราจะไม่สามารถอ่านเล่มอื่นได้อีกเลยไป 2 -3 วัน ไม่รู้ว่าใครเป็นแบบเรารึเปล่านะคะ



หักเหลี่ยมสังหารเป็นลำดับที่ 12 ของชุด indeath ค่ะ เหตุฆาตกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงแรมของโร้ค เมื่อพนักงานทำความสะอาดคนหนึ่งของโรงแรม ถูกฆ่าข่มขืน ในขณะที่โร้คและอีฟอยู่ในงานประมูลทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลของดาราดังคนหนึ่งด้วย อีฟใช้เวลาไม่นานก็สามารถสืบหาฆาตกรได้ แต่ยิ่งสืบลึกลงไปเท่าไหร่อีฟก็พบว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกับอดีตของโร้คคอยชักใยและเป็นผู้ว่าจ้างฆาตกรให้ฆ่าคนของสามีเธอ แต่ทำไมล่ะ?
โร้คอยากให้อีฟถอนตัวอยากคดีนี้ค่ะ เพราะเขารู้ดีว่าคดีที่เป็นเรื่องข่มขืนจะทำให้อีฟเจ็บปวดและ ฝันร้ายเพียงใด แต่อีฟปฏิเสธเธอต้องการคดีนี้ การหาความยุติธรรมให้กับคนตายเป็นสิ่งที่อีฟยึดมั่นมาตลอด เล่มนี้เราจะได้เห็นพัฒนาการอย่างหนึ่งที่อีฟไม่เคยทำในที่สาธารณะ ไม่เคยทำในระหว่างปฏิบัติหน้าที่โดยมีใครเฝ้าดูอยู่ เธอโอบกอดโร้ค ค่ะ เมื่อลูกน้องของเขาอีกคนหนึ่งถูกฆาตกรฆ่าและข่มขืน รัดคอเหมือนกับพนักงานทำความสะอาดของ โร้ค
เล่มนี้มีสัญญาณที่น่ายินดีระหว่างอีฟกับซัมเมอร์เซ็ตให้ได้ลุ้นกันด้วยนะคะว่าคู่นี้จะเลิกเป็นคู่กัดกันรึยัง เมื่อซัมเมอร์เซ็ตกลายเป็นคนที่ฆาตกรตามฆ่าแต่เขาสามารถรอดมาได้ทำให้โร้คโกรธสุด ๆ สั่งให้ซัมเมอร์เซ็ตไปอยู่ที่อื่นทันทีแต่ซัมเมอร์เซ็ตไม่ไปค่ะ โร้คก็เลยไล่เขาออก ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติอีฟคงเต้นแร้งเต้นกาด้วยความดีใจแล้วค่ะ แต่เธอไม่ต้องการให้ซัมเมอร์เซ็ตไปเธอคิดว่าบ้านของโร้คเป็นป้อมปราการที่ดีที่สุดแล้ว มีประโยคซึ้ง ๆ ของอีฟกับซัมเมอร์เซ็ตด้วยนะคะ
อีฟบอกว่าซัมเมอร์เซ็ตคือสิ่งเดียวที่โร้คนำติดตัวมาด้วยจากอดีตที่เขาเห็นคุณค่า พ่อบ้านของเราฟังแล้วถึงกับเข่าอ่อนยอมให้ความร่วมมือกับอีฟเต็มที่ แถมยังบอกอีฟอีกว่า


"ผมทิ้งโร้คไม่ได้...โร้คเป็นของผม"

ที่อยากเล่าอีกฉากก็คงเป็นฉากที่อีฟต้องแต่งตัวสวย ๆ ออกงานกับโร้คค่ะ ซึ่งนาน ๆ ครั้งที่เราจะเห็นอีฟทำ อีฟถูกเกลี่ยกล่อมให้เจาะหูแล้วนะคะในเล่มนี้เธอบอกว่ามันอยู่ในช่วงที่เธอกำลังเหนื่อยล้าพอดี ยิ่งฉากที่อีฟผู้ไม่เคยหวาดหวั่นกับการเผชิญหน้ากับความตายแต่กลับต้องล่าถอยด้วยความกลัวทริน่าที่ปรึกษาความงามของเธอแล้ว ฮามากค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: