7 กรกฎาคม 2553

ดวงใจยิปซี///Lisa Kleypas

เรารู้จักลิซ่าครั้งแรกจากนิยายเรื่องขอเพียงแค่ฝันซึ่งหลังจากอ่านจบก็กลายเป็นหนังสือในดวงใจตลอดกาลของเราไปทันที หลังจากนั้นเราก็ติดตามอ่านเรื่องอื่น ๆ ของเธอมาตลอดแต่ไม่เคยมีเล่มไหนสามารถเทียบเท่าเรื่องราวสุดประทับใจของดีเร็คและซาร่า ได้เลยค่ะ

ดวงใจยิปซี (Seduce Me at Sunrise ) เล่มที่สองของนิยายชุดแฮทธาเวย์ ได้เข้าชิงรางวัลริต้าปี 2009 ด้วยนะคะ ซึ่งจะมีการประกาศผลในเดือน กรกฎาคมนี้ค่ะ



ครอบครัวแฮทธาเวย์รับ เคฟ เมร์ริเพนซึ่งเป็นยิปซีเข้ามาอยู่ด้วยตั้งแต่เขายังเด็ก ๆ หลังจากถูกทำร้ายและทิ้งเขาไว้ให้รอความตายเพียงลำพัง เคฟเป็นนักสู้ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ ชนเผ่ายิปซีบางเผ่าเลือกเด็กชายที่แข็งแรงที่สุดเปลี่ยนให้เขาเป็นนักสู้มือเปล่า สอนให้พวกเขาต่อสู้กันในงานเทศกาลต่าง ๆ คนที่รอดชีวิตมาได้จะกลายเป็นนักสู้ที่แข็งกระด้าง และถูกกำหนดให้เป็นนักรบของเผ่า เขากลายเป็นผู้ดูแลสิ่งต่าง ๆ ที่ครอบครัวแฮทธาเวย์ไม่สนใจ เขาซ่อมเพดานบ้านที่รั่ว ซ่อมปล่องควัน ถึงแม้เขาจะกลัวความสูงเขาก็ยังไปซ่อมหลังคาบ้าน เขาดูแลม้าและวัว ดูแลสวนครัว แม้กระทั่งการเข้าไปใปหมู่บ้านเพื่อซื้ออาหารและของใช้จำเป็น



ด้วยสุขภาพที่อ่อนแอของวิน นับตั้งแต่ป่วยเป็นไข้อีดำอีแดงเมื่อสองปีก่อน ทำให้เธอต้องเดินทางไปคลีนิกแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสที่หมอจูเลียน แฮร์โรว์ประสบความสำเร็จอย่างมากในการรักษาโรคที่คล้าย ๆ เธอ วินอยากทำ

ทุกอย่างเพื่อให้หายจากอาการที่เป็นอยู่ เธอหวังไว้ว่าถ้ามีวันนั้นเธอและเคฟคงได้ครองคู่กัน เคฟและวินนั้นมีใจผูกพันกันมาเนิ่นนาน แต่เขาปฏิเสธความรักของวินมาตลอด ความพยายามใด ๆ ก็ตามที่วินจะเปิดเผยมันออกมา

มักได้รับการต่อต้านจากเขาเสมอเคฟเองไม่มีวันยอมรับว่าเขาเองก็สนใจเธอ เคฟคิดเสมอว่าตัวเขาไม่มีค่าคู่ควรเธอ และการควบคุมความรู้สึกที่มีต่อวินมันเริ่มยากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วในตอนนี้

หลังจากที่วินเดินทางไปฝรั่งเศสกับลีโอพี่ชายของเธอ แคม โรอัน หนุ่มยิปซีเหมือนเคฟ(พระเอกเล่มหนึ่งซึ่งแต่งงานกับอเมเลียพี่สาวของวิน) ได้มอบให้ เคฟ เมร์ริเพนเป็นผู้ดูแลการซ่อมแซมบ้าน ปรับปรุงที่ดิน และฟาร์มของครอบครัวแอทธาเวย์ที่ถูกไฟไหม้ มีประเด็นของสองคนนี้ที่น่าสนใจด้วยนะคะ แคมและเคฟมีรอยสักบนแขนของยิปซีที่เหมือนกัน และแคมจะติดตามเรื่องนี้ถ้ามีการเชื่อมโยงอะไรก็ตามระหว่างเขากับเคฟ แคมก็อยากจะรู้ว่ามันคืออะไร

สองปีต่อมา ในที่สุดวินก็กลับบ้าน เธอกลายเป็นหญิงสาวที่แข็งแรงและสวยงาม และเคฟกลับกลายเป็นชายที่แข็งกระด้าง ยังคงไม่ยอมรับความรุ้สึกที่เขามีต่อวิน และยังคงยึดมั่นอย่างเดิมว่าเขาไม่มีอะไรจะมอบให้เธอได้ วินตัดสินใจบอกเขาว่า เธอได้รับโอกาสครั้งที่สองที่จะใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป และเธอตั้งใจจะใช้มันอย่างเต็มที่ เธอจะไม่ยอมสูญเสียความรักไปโดยเปล่าประโยชน์กับผู้ชายที่ไม่ต้องการมันอีกต่อไป

นับแต่นั้นมาวินก็ประพฤติตัวดุจเคฟเป็นเพียงพี่ชายคนหนึ่ง และมีท่าทีสนิทสนมกับหมอแอร์โรว์อย่างเปิดเผย ทำเอาเคฟแทบจะทนไม่ได้ ช่างเป็นการต่อสู้อย่างอับจนของคนที่มีความรู้สึกผูกพันกันและกันอย่างเหนียวแน่นจริง ๆ ค่ะ เราประทับใจมาก ๆ กับคำพูดของลีโอ พี่ชายของวินที่พูดเตือนสติเคฟหลังจากสถานการณ์ของทั้งคู่เริ่มแย่ลง

ต้องขอเล่าย้อนไปถึงตอนที่วินกับลีโอล้มป่วยด้วยไข้อีดำอีแดงนะคะ เคฟผสมยาจากมะเขือพิษเพื่อรักษาทั้งคู่ และเขาเตรียมไว้สำหรับตัวของเขาเองถ้าวินดื่มยานี้แล้วไม่ทำให้อาการเธอดีขึ้นและอาจตายจากเขาไปเคฟตั้งใจจะดื่มยานี้เพื่อตายตามเธอไปด้วย ลีโอพูดว่า



"ถ้านายมีความกล้าพอจะตายกับเธอ นายไม่คิดหรือว่านายน่าจะรวบรวมความกล้าเพื่อใช้ชีวิตอยู่กับเธอ"



นั่นทำให้เราอยากอ่านเล่มของลีโอขึ้นมาทันทีค่ะ หลังจากเล่มแรกบทบาทของเขาไม่โดดเด่นเท่าไหร่นัก ซึ่งก็คงรอกันอีกนานค่ะ เพราะเล่มหน้าจะเป็นเล่มของป๊อปปี้น้องสาวอีกคนของลีโอ แจ้งเรื่องคะแนนความพอใจของนิยายโรมานซ์ที่เราอ่านจบนะคะนับแต่เล่มนี้เราจะเปลี่ยนการให้คะแนนเป็นเต็ม 10 ค่ะ



คะแนนความพอใจ 8/10

ไม่มีความคิดเห็น: