ลังเลอยู่นานค่ะว่าจะหยิบเล่มสามของเจนีนมาอ่านต่อดีหรือไม่ แต่เมื่อได้ทราบว่าเล่มสี่ซึ่งเป็นเล่มจบของชุดนี้กว่าจะออกตั้งเดือนกรกฎาคม ถ้าขืนหยิบมาอ่านมีหวังอารมณ์ค้างแน่นอน ก็เลยขอพักเรื่องเลือดสาดมาเป็นแนวลึกลับ อาถรรพณ์แทนค่ะ
ค.ส 1652 เมืองฮอว์กิ้นส์ ฮอลโลว์ คำกล่าวของ ไจลส์ ก่อนตาย
"ลูกหลานเอ๋ย สามส่วนจากหนึ่งเดียว ด้วยศรัทธา ด้วยความหวัง และด้วยความจริง ลำแสงหนึ่งผนึกเข้าด้วยกันเพื่อขับไล่ความมืด ข้าขอปฏิญาณไว้ ณ ที่นี้ว่าข้าจะไม่ลาลับจนกว่าจะถึงวันชี้ชะตา"
"สายเลือดของสายเลือดข้า ข้าจะรออยู่ที่นี่จนกว่าเจ้าจะมาหาข้า จนกว่าเจ้าจะปลดปล่อยสิ่งที่จะต้องถูกปลดปล่อยอีกครั้งบนโลก ขอให้ปวงเทพคุ้มครองพวกเจ้าด้วยเถิด"
หลังจากช่วยให้แอนน์ ฮอว์กิ้นส์ และลูกชายของเขาหนีไป ไจลส์ เดนส์ ก็ยืนรอเผชิญชะตากรรมของตนที่ลานศิลา pagan (ลานโล่งที่มีหินโผ่ลออกมาจากพื้นดินคล้ายแท่นบูชา ตามประวัติศาสตร์ พวกอินเดียแดงยึดถือที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักสิทธิ์ ว่ากันว่าก่อนหน้านั้นพลังอำนาจต่าง ๆ ได้ต่อสู้เพื่อแย่งชิงกันทั้งความมืด ความสว่าง ความดีและความชั่ว)
ลาซารัส ทวีส นักบวชอาวุโส เขาและบรรดาผู้เลื่่อมใสคนอื่น ๆ พากันมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองนี้ เมื่อแตกหักกับกลุ่มพิวลิตัน แห่งนิวอิงแลนด์ ไม่นานหลังจากนั้น เมืองฮอว์กิ้นส์ ฮอว์โลว์ก็ตกอยู่ในความครอบครองของเขา ตั้งกฏของตนเองห้ามไม่ให้มีการเต้นรำ ร้องเพลง เล่นดนตรี ห้ามมีหนังสืออื่นนอกจากไบเบิ้ล ไม่มีศาสนาอื่นนอกจากศาสนาของเขาเอง ไม่มีพระเจ้าอื่นนอกจากพระเจ้าของเขาเอง เขาข่มขุ่ กรรโชก ทำร้าย ลงโทษ เนรเทศ ยิ่งมีอำนาจมากขึ้น ลาซารัสยิ่งทารุณและลงโทษรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ ลาซารัส กล่าวหาไจลส์และภรรยาเป็นพ่อมด แม่มด ใช้เวทย์มนต์ทำการชั่วช้า ต่อเด็กสาวคนหนึ่งชื่อว่า เฮสเตอร์ ดีล พวกเขาทุบตีไจลส์ เผาบ้านของเขา และเผาเขาทั้งเป็น
ไจลส์ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายคว้าตัวลาซารัสซึ่งกำลังยืนอิ่มเอมกับชัยชนะเข้ามากอดไว้แน่นท่ามกลางไฟที่โหมลุกลาม ทำลายทุกชีวิตในลานศิลาแห่งนี้ อีกนานต่อมา แอนน์ ฮอว์กิ้นส์ได้กลับไปที่ เมืองฮอว์กิ้นส์ ฮอลโลว์อีกครั้งพร้อมลูกชาย 3 คน แปดเดือนต่อมา หลังจากเพลิงผลาญทุกอย่าง เฮสเตอร์ ดีล คลอดลูกสาวคนหนึ่ง ที่เธออ้างว่าเป็นลูกของปีศาจ เฮสเตอร์ก็ฆ่าตัวตายในบึงเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในป่า ฮอว์กิ้นส์
6 กรกฎาคม ปี 1987 เมืองฮอว์กิ้นส์ ฮอลโลว์
เรื่องราวความลึกลับอาถรรพณ์ ทั้งหมดเกิดขึ้นในวันเดียวกัน เริ่มจาก คาล ฟ็อกซ์และเกจ เด็กชาย 3 คนซึ่งเกิดวันเดียวกัน คือวันที่ 7 เดือน 7 ปี 1977 นัดแนะฉลองวันเกิด ครบ 10 ปี ที่ศิลา pagan สถานที่เก่าแก่มีอายุหลายร้อยปี การเฉลิมฉลองทศวรรษแรกของพวกเขากลาย เป็นสิ่งที่ คาล ฟ็อกซ์และเกจ ไม่เคยลืมการผจญภัยเล็ก ๆ ครั้งนี้เลยมันเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาทั้งชีวิต
เมื่อเวลาเที่ยงคืนในวันเกิดของพวกเขา เป็นวันที่พวกเขาสาบานกันด้วยเลือด เชื่อมโยงเป็นพี่น้องจะเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ต่อกันตราบเท่าที่พวกเขามีชีวิตอยู่ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันพลันบังเกิดขึ้นเมื่อการสาบานของพวกเขาได้ปลดปล่อยพลังอันชั่วร้ายของปีศาจแห่งการทำลายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ออกมาสู่เมืองที่เงียบสงบอย่าง ฮอว์กิ้นส์ ฮอลโลว์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อถึงเดือน 7 ของทุก ๆ 7 ปี เมืองฮอว์กิ้นส์ ฮอลโลว์ จะแปรเปลี่ยนเป็นนรกไป 7 วัน คนในเมืองฮอว์กิ้นส์ ฮอลโลว์ กลายเป็นคนโหดเหี้ยมรุนแรง ถึงขนาดฆ่ากัน พวกเขาทำเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อน ทำลายข้าวของ ทุบตีกัน จุดไฟ ฆ่าตัวตาย และอะไรอื่นอีกมากมายที่ล้วนแล้วแต่เลวร้าย
หลังจากคืนนั้นที่ลานศิลา
-คาล ผู้เคร่งครัดเจ้าระเบียบ ต้นตระกูลของเขาสืบเชื้อสายเดียวกับแอนน์ ฮอว์กิ้นส์ บรรพบุรุษของเขาซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมืองนี้ เขาสามารถมองเห็นอดีต
-ฟ็อกซ์ บ้าระห่ำ รักการท้าทาย สามารถมองเห็นหรือรุ้สึกได้ถึงสิ่งที่คนอื่นกำลังคิดหรือรู้สึก
-เกจ มีพ่อเป็นขี้เหล้าทุบตีเขาประจำจึงเป็นเด็กที่ไม่สุงสิงกับใคร สามารถมองเห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
พวกเขาสามคนไม่เคย เจ็บป่วยและพอมีแผลก็รักษาให้หายได้ทันทีเหมือนกันและทุกคนมีหินคนละเสี้ยวกำไว้ในมือแน่นหลังคืนนั้น!
ปริศนารอยอดีต : Blood Brothers (Sign of Seven Trilogy book I)
แปลโดย จรรย์สมร รัตนชาตะ : Nora Roberts
เพิร์ล พับลิชชิ่ง
ปี 2008 ยี่สิบเอ็ดปีต่อมา
เมืองฮอว์กิ้นส์ ฮอลโลว์
ตำนานท้องถิ่นเรื่องนี้ ได้นำพา ควินน์ แบล็ก นักข่าวและนักเขียนสาวมาสู่เมืองต้องสาปด้วยหวังว่าจะใช้เหตุการณ์นี้เป็นผลงานชิ้นใหม่ของเธอ ควินน์มีความเชื่อมั่นว่าแท่นศิลา pagan เป็นส่วนหนึ่งของเหตุร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นที่นี่ในทุก ๆ 7 ปี เช่นเดียวกับเลย์ล่า หญิงสาวจากเมืองนิวยอร์ค ที่เดินทางมาเมืองฮอว์กิ้นส์ ฮอลโลว์ในเวลาไล่เลี่ยกันกับควินน์ หญิงสาวทั้งสองต่างฝันเห็นปีศาจตัวเดียวกันและเห็นปีศาจตัวนี้ในขณะที่คนอื่นมองไม่เห็น ทำให้คาลเชื่อว่าควินน์และเลย์ล่าซึ่งเป็นคนนอกต้องมีบางอย่างเกี่ยวข้องในทางใดทางหนึ่ง รูปแบบของเหตุร้ายต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น กำลังเปลี่ยนแปลงไปคาลรู้สึกได้เมื่อปีศาจมาปรากฏกายก่อนจะครบกำหนด 7 ปี ถึง 5 เดือน
ควินน์เริ่มต้นสืบย้อนลำดับการเป็นเครือญาติซึ่งอาจมีใครเกี่ยวข้องในเหตุการณ์อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นตรงลานศิลาเมื่อครั้งปี 1652 เธอขอให้ซีบิลเพื่อนร่วมงานที่เก่งฉกาจในการค้นคว้าเดินทางมาที่เมืองนี้ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่เกจ เทอร์เนอร์ มาถึงพอดี
ดูเหมือนควินน์จะมาถูกทางแล้วค่ะ เมื่อเธอไปเยือนหลุมศพของแอนน์ ฮอว์กิ้นส์และบังเอิญเดินสะดุดแผ่นหินของหลุมศพชื่อ โจเซฟ แบล็ก นามสกุลเดียวกับเธอเข้า มันต้องมีความสำคัญ และมีความหมาย ข้อมูลใหม่ ๆ เริ่มปรากฏ ซึ่งคาล ไม่เคยรู้และไม่เคยพยายามที่จะสืบข้อมูลนี้มาก่อน
เกจซึ่งเดินทางมาจากเมืองปราก เขาได้ข้อมูลบางอย่างของ ปีศาจที่มาหลอกหลอนพวกเขาในทุก 7 ปี ชื่อเรียกขานของมันคือ ทามาวี่ แปลว่า ความมืดมิด มันปรากฏตัวขึ้นในร่างคนซึ่งไม่ใช่คน ไล่ล่าเหมือนหมาป่า บางครั้งเป็นเด็กผู้ชาย เด็กชายที่ล่อลวงผู้หญิงและเด็ก ๆ ในหมู่บ้านเข้าไปในป่า ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้กลับมาอีกเลย เที่ยวฆ่าคนอื่น ๆ เพื่อนบ้าน หรือฆ่าตัวตาย ปีศาจตนนี้ตะเวนทั่วยุโรปมาหลายศตวรรษ แต่สุดท้ายมันถูกตามล่า บาดเจ็บถูกทิ้งในตายในป่า แต่มีบางอย่างผิดพลาด มีบางคนไปที่นั่น เป็นเด็กชายคนหนึ่ง ปีศาจตนนั้นถ่ายทอดพลังไปในตัวเด็กชายก่อนตาย
ในเล่มนี้ เนื้อเรื่องจะเป็นการสืบหาข้อมูลต่าง ๆ ของหญิงชายทั้งหกคน ที่อาจมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกันมาตั้งแต่อดีตหลายร้อยปี แต่มีอะไรบางอย่างที่ดลใจให้พวกเขามาพบเจอกันในสถานการณ์ร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นค่ะยิ่งสืบหาข้อมูลเครือญาติ สมมติฐานที่พวกเขาตั้งขึ้นก็ยิ่งเด่นชัดเมื่อ เฮสเตอร์ ดีล เด็กสาวที่ฆ่าตัวตายในบึงคือบรรพบุรุษของควินน์ เอง
ในส่วนของความเป็นโรมานซ์ เล่มนี้เป็นการจับคู่ระหว่างคาลและควินน์ ค่ะ (ชื่อนางเอก เราไม่ชอบเลยค่ะ เป็นผู้ชายเกินไป) ทั้งคู่ต่างหลงรักกันและกันแทบจะทันที ควินน์เป็นนางเอกที่คิดเร็ว ทำเร็วมากค่ะ แต่ก็ฉลาด และกล้าหาญ ส่วนคาล หนุ่มรักบ้านเกิดที่รับผิดชอบกิจการโบว์ลิ่งของครอบครัวเป็นรุ่นที่สาม เป็นพระเอกตามสไตล์นอร่าเปี๊ยบค่ะ
เล่มแรกการจับคู่ก็ชัดเจนแล้วค่ะ ฟอกซ์กับเลย์ล่า ซึ่งเล่มนี้หนุ่มสุดห้าว อาชีพทนายความเริ่มทาบทามเลย์ล่าให้มาทำงานเป็นเลขาฯของเขาแล้วค่ะ หลังจากคนเก่ากำลังจะย้ายออกจากเมืองไป อีกคู่ เกจกับซีบิล ขอสารภาพ ว่าเราหลงรักเกจตั้งแต่เขาอายุได้ สิบขวบแล้วค่ะแค่กระดาษ 2-3 หน้า ที่เราได้อ่านเรื่องราวของเขาที่ถูกพ่อเฆี่ยนตี ด้วยเข็มขัดนั่นล่ะ เกจเดินทางออกจากเมืองเมื่ออายุสิบแปด เขาไม่อาจทนอยู่กับพ่อได้อีกต่อไปถึงแม้เขาจะกลับมาอีกครั้งก็ตาม เขาโตขึ้นค่ะ ดูทั้งดิบ ทั้งเถื่อน
ยังมีประเด็นที่ต้องตามกันต่อไปค่ะ เช่นว่า แอนน์ ฮอว์กิ้นส์ได้มาปรากฏตัวให้คาลเห็นและบอกว่า "เวลาของมันกำลังสิ้นสุดลง เจ็ดคูณสาม อยู่หรือตาย เขาเหนี่ยวรั้งมันไว้ ขัดขวางมันไว้ ถ้าไม่มีความอุตสาหะ การเสียสละ รวมทั้งความกล้าหาญของเขา ทุกอย่างนี้คงถูกทำลายหมดสิ้น หนนี้เป็นคราวของพวกเจ้าแล้ว"
ต้องตามกันต่อในเล่มสองค่ะ ว่าพวกเขาทั้งหกคนที่โชคชะตานำพาให้มาพบกันจะสามารถกำจัดปีศาจร้ายได้หรือไม่
คะแนนความพอใจ 7/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น