15 พฤศจิกายน 2553

ลิขิตสู่ (หลุม) รักนิรันดร (Destined for an Early Grave) By Jeaniene Frost

กว่าจะได้เล่มนี้มาอ่านเราต้องรองานหนังสือค่ะ เราหาซื้อไม่ได้เลยตามร้านใกล้บ้านนั่นเป็นเพราะหนังสือขายดีมาก ลิขิตสู่(หลุม)รัดนิรันดร จึงเป็นเล่มแรกของงานหนังสือที่เราหยิบมาอ่านค่ะ


สำหรับใครที่ไม่เคยอ่านชุดนี้ สนพ.นกฮูกได้แปลออกมาแล้วสามเล่ม เรื่องนี้เป็นเล่มที่สี่ สุดท้ายแล้วค่ะ และเช่นเคยทุกครั้งที่เขียนเรื่องนี้คงเลี่ยงไม่พ้นที่อาจมี สปอยล์เล่มก่อนหน้าได้





ลิขิตสู่ (หลุม) รักนิรันดร (Destined for an Early Grave) By Jeaniene Frost



สนพ. นกฮูก อรอิสรีย์ แปล

เริ่มต้นเรื่องกับวันพักผ่อนในปารีสของแคทและโบนส์ หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้สิ้นสุดลงในเล่มที่สาม การเลือกมาปารีสแบบไม่มีเหตุผลที่จะอธิบายได้ของแคท ชักพาเธอสู่ ความฝันที่เลวร้าย เมื่อแวมไพร์ชื่อเกรเกอร์ บุกรุกความฝันของแคท เกรเกอร์เป็นแวมไพร์ที่มีพลังยิ่งกว่าโบนส์ เขาเป็นแวมไพร์ที่ฉกฉวยความฝันและสามารถขโมยคนในความฝันได้ ที่สำคัญเกรเกอร์มองเห็นอนาคตได้ด้วย ซึ่งนี่เองเป็นเหตุผลที่เกรเกอร์ตามหาแคทเมื่อเธออายุสิบหกปี เขาพยายามที่จะให้แคทไว้ใจ เขาล่อลวงเธอให้แต่งงานด้วยวิธีของแวมไพร์ เมนเชเรส ผู้ปกครองแวมไพร์ร่วมสายเดียวกับโบน์ ซึ่งมองเห็นอนาคตด้วยเช่นกัน เข้าขัดขวาง เมนเชเรสจับเกรเกอร์ไปขังและลบความทรงจำของแคทช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่เธอเคยอยู่กับเกรเกอร์ ซึ่งนี่เองคือเหตุผลที่แคทจำเหตุการณ์ตอนพบเกรเกอร์ไม่ได้



ในตอนนี้เมื่อเกรเกอร์ย้อนกลับมาในความฝันของแคท ถ้าเขาสามารถแตะต้องเธอได้ ตอนแคทตื่นขึ้นมาเธอก็จะไปอยู่ที่ใดที่หนึ่งที่เกรเกอร์ต้องการ เขาเริ่มประกาศอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของแคท เกรเกอร์ต้องการแคทกลับคืน และกำลังรวบรวมผู้สนับสนุนคำอ้างของเขาที่ว่าได้ที่เชื่อมเธอด้วยเลือดแล้ว



สงครามครั้งใหม่ใกล้เริ่มต้น เกรเกอร์โกรธแค้นเมนเชเรสที่กักขังเขาไว้นานกว่าสิบปี เขาได้เสนอลบแค้นด้วยการแลกตัวแคทคืนมา แต่โบนส์ปฏิเสธในฐานะที่เขาเป็นผู้ปกครองร่วมสายกับเมนเชเรส นั่นหมายความเขาพูดแทนเมนเชเรสด้วย ส่วนคนกลางอย่างแคทเธอไม่รู้จริง ๆ ว่าได้ผูกมัดตัวเองกับเกรเกอร์หรือไม่ นี่เป็นประเด็นสำคัญตามมาภายหลังที่บีบหัวใจเรามากค่ะ



ช่วงแรก ๆ ของเรื่องนี้จะฝืดมากสำหรับเราค่ะเมื่อทั้งแคทและโบนส์ต้องคอยหลบหนีการตามล่าของเกรเกอร์ไม่หยุดหย่อนด้วยกลวิธีนานับปการซึ่งก็ไม่เคยรอดพ้นเกรเกอร์ได้นานนักเพราะแคทนั่นเองคือเรดาร์นำทางของเขา ผลกระทบที่ต้องคอยหลบนี้การตามล่าของเกรเกอร์ทำให้ความสัมพันธ์ของแคทและโบนส์เริ่มไม่ลงรอยกัน



ใช้เวลาลุ้นพอสมควรค่ะเมื่อเกรเกอร์รวมพลบุกรุกป้อมปราการของโบนส์อีกครั้ง แคทซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากโบนส์ให้เข้าร่วมได้แต่เฝ้ามองการนองเลือดที่เธอเป็นสาเหตุที่ทำให้โบนส์และเพื่อน ๆ ตกอยู่ในอันตราย เกรเกอร์ต้องการตัวเธอให้ไปอยู่กับเขามันอาจจะคุ้มค่าถ้าเธอปกป้องพวกเขาจากการถูกฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ ฉะนั้นเพื่อเกรเกอร์เสนอข้อแลกเปลี่ยนนี้แคทจึงไม่ลังเลที่จะยอมให้เขาลักพาตัวเธอผ่านความฝัน



ที่เหลือจะเป็นส่วนที่สนุกที่สุดของเรื่องนี้ค่ะ แคทรู้ดีว่าหัวใจและร่างกายของเธอเป็นของโบนส์ แต่เธอก็ยังอยากได้ความทรงจำกลับคืนมา เธออยากพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าเธอยังคงเลือกโบนส์ถึงแม้ แคทยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับภาระที่ผูกติดกับเกรเกอร์ก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่แคทไม่ได้คาดคิดไว้เธอได้ทำลายความเชื่อใจของโบนส์ แทบสิ้น ภายหลังที่เธอปฏิเสธเกรเกอร์และจากมา



ผลการกระทำของแคทครั้งนี้ โบนส์ถึงกับฟิวส์ขาด เขากล่าวหาว่าแคทดูหมิ่นฝีมือเขา ปกป้องเขาเหมือนคนอ่อนแอ นี่เป็นข้อความบางส่วน ของโบนส์กล่าวหาแคทซึ่งบีบอารมณ์เราเหลือเกินค่ะ (น.196-197)



“ผมสามารถทนกับหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย ผมทนได้ที่คุณชอบเททเท่ากับที่ผมเกลียดเขา (เราก็เกลียดเททค่ะ) ความหึงหวงของคุณต่อผู้หญิงคนอื่น ถึงแม้ผมไม่ได้ก่อเหตุให้คุณระแวง เพราะผมคงรู้สึกอย่างเดียวกันถ้าผมเป็นคุณ ผมทนได้กับการที่คุณยืนกรานร่วมต่อสู้ในสถานการณ์ที่อันตราย แต่เพื่อคุณผมเลือกที่จะอดทนกับมัน

ผมเลือกที่จะทนกับหลายสิ่งที่คุณไม่ยอมรับ ผมอดทนได้ที่รับรู้ว่าลึกลงไปแล้วในใจคุณยังคงเชื่อว่าแวมไพร์คือปีศาจร้าย แม้ว่าจะมีเหตุผลอื่นที่ทำให้คุณลังเลใจ ผมคิดไปจริง ๆ ว่าคุณรักผม คุณก็ยังไม่ต้องการเปลี่ยนเป็นแวมไพร์เพราะคุณไม่คิดว่าเราจะอยู่ด้วยกันได้ตลอดไป ผมเฝ้าอดทนมาตลอดบอกตัวเองว่าวันหนึ่งคุณจะไม่มองผมด้วยความหวาดระแวง บอกตัวเองว่าวันหนึ่งคุณจะรักผมเหมือนอย่างที่ผมรักคุณ....แต่นี่ คือเรื่องหนึ่งที่ผมไม่สามารถทนให้คุณเดินหนีจากผมไป “



เราก็สงสัยแคทเหมือนกันค่ะว่าในเล่มนี้บางครั้งทำไมแคทยังคงระแวงความรักที่โบนส์มีต่อเธออีก ยังคิดว่าโบนส์จะกลับไปเจ้าชู้เหมือนในอดีต โบนส์ไม่ได้พิสูจน์ให้เธอเห็นในเล่มสองแล้วหรอกหรือ



เป็นเล่มหนึ่งที่เขียนยาวพอควรค่ะ ขอพูดในส่วนของรูปเล่มบ้างนะคะ นอกจากจะผิดหวังกับปกที่เคยบ่นไปแล้ว การขึ้นย่อหน้าใหม่ในหนังสือไม่ได้ทำตัวหนังสือเข้มใหญ่ ๆ บอกเลยค่ะบางครั้งเมื่อขึ้นฉากใหม่จะอ่านงง ๆ เพราะดันอยู่หน้าเดียวกันแต่คนละฉาก ต้องทวนกลับไปอ่านอีกครั้ง เพื่อน ๆ เป็นกันรึเปล่า อย่างไรก็ตามก็ไม่ใช่ประเด็นใหญ่หรอกค่ะแต่ปรับปรุงใหม่ได้ก็จะเป็นพระคุณ สำนวนแปลคุณ อรอิสรีย์ยังยอดเยี่ยมไม่มีตกค่ะ เห็นไหมคะถ้าแปลดีเราก็ชม ใช่ว่าจะติไปซะทุกเล่มที่ไหนกันล่ะ



คะแนนความพอใจ 8/10

ไม่มีความคิดเห็น: