แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Lisa Marie Rice แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Lisa Marie Rice แสดงบทความทั้งหมด

22 ธันวาคม 2554

เล่ห์ลับพิศวาสร้าย - Dangerous Secrets ///Lisa Marie Rice


 เล่ห์ลับพิศวาสร้าย : Dangerous Secrets
สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากการอ่านนิยายของ ลิซ่า มารี ไรซ์ คงเป็นพระเอกที่ช่างใส่ใจ เข้มงวดกับความปลอดภัยและทนุถนอมผู้หญิงของตัวเองเอามาก ๆ  ตอนอ่านเล่นเอาเคลิ้มไปเหมือนกันเล่มนี้เป็นเล่มที่สองในชุด  Dangerous  เล่มแรกย้อนกลับไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ เผด็จรักอันตรายไม่จำเป็นต้องอ่านเรียงกันด้วยค่ะ เพราะเนื้อหาไม่มีอะไรที่เกี่ยวเนื่องกัน



                เมื่อนิโคลัส ไอร์แลนด์ อดีตทหารจากหน่วยเดลต้าฟอร์ซ ผันตัวเองมาปฏิบัติงานสายลับให้กลับรัฐบาล ฉากหน้าเขาคือนิโคลัส  เอมส์ นักธุรกิจหนุ่มที่ปลดเกษียณตัวเองจากวอลสตรีทที่กำลังมองหาลู่ทางเปิดกิจการ ในเมืองเล็ก ๆ เงียบสงบของเวอร์มอนท์ทันทีที่มาถึงย่อมไม่เป็นเรื่องผิดสังเกตแต่อย่างใด ที่เขามุ่งตรงไปที่ห้องสมุดประจำเมืองเพื่อหาข้อมูลและถ้าแชริตี้ พรีวิตต์ บรรณารักษ์ผู้ตกเป็นเป้าหมายของนิค รู้ว่าตัวเองกำลังถูกนิคหลอกใช้เธอคงไม่ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นเป็นกันเองแน่ ๆ
                การปลอมแปลงตัวและนักโกหกชั้นยอดเป็นงานที่นิคถนัดและชำนาญด้วยรูปร่างหน้า ตาที่เขาเรียกกันว่าเป็นของขวัญจากพระเจ้านั่นแหล่ะเป็นใบเบิกทาง  เขาจู่โจมแชริตี้ด้วยเสน่ห์อันเหลือล้นจนเธอตั้งตัวไม่ติด และต้านทานไม่ได้ด้วยเมื่อนิคตั้งใจที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเค้นเอาข้อมูลของ วัสซิลลี่ โวลรอนซอฟ จากเธอ
                วัสซิลลี่ ผู้นำกลุ่มอาชญากรระดับโลกซึ่งเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลกคนหนึ่ง ในอดีตก่อนที่จะมาเป็นเฟียชาวรัสเซียชื่อกระฉ่อนวัสซิลลี่เคยเป็นนักกวี ปรัชญาที่ทั่วโลกให้การยอมรับช่วงเวลาเดียวกับสหภาพโซเวียตล่มสลายและเขา ถูกกล่าวหาจากทางการว่าเป็นคนปลุกปั่นระดมมวลชนให้ต่อต้าน วัสซิลลี่ถูกจับไปกักขังในค่ายกักกันเมื่อถูกปล่อยตัวออกมาเขาก็เปลี่ยนไป เป็นอีกคนที่เหี้ยมโหด หาช่องทางและรวบรวมคนก่อตั้งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อแก้แค้นให้กับความ อยุติธรรมที่เขาเคยได้รับและสูญเสียคนรัก ที่วัสซิลลี่รักมากที่สุดไป แต่ตอนนี้วัสซิลลี่ได้พบแชริตี้ ตัวแทนของแคทยาคนรักเก่าซึ่งบังเอิญมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกันราวกับฝาแฝด ชาวเมืองพาร์เกอร์ริดจ์จะรู้เป็นอย่างดีว่าแชริตี้เป็นเพื่อนสนิทของวัสวิ ลลี่ที่เขาพาเธอเข้านอกออกในบ้านเขามาแล้วหลายต่อหลายครั้งในฐานะแขกพิเศษ
                แชริตี้ผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่าตัวเองเจอะเจอกับอะไรบ้างกำลังอยู่ในช่วง ชีวิตที่เงียบเหงาด้วยวัยยี่สิบแปดปีขาดแคลนหนุ่ม ๆ มาติดพันการปรากฏตัวของนิคก็เหมือนฟ้าประทานความชื่นมื่นให้เธอค่ะ นอกจากนั้นนิคเปรียบเสมือนฮีโร่มาช่วยเหลือยามเธอเดือดร้อนและไม่รู้จะหัน หน้าไปพึ่งใคร ความบริสุทธิ์ใจของแชริตี้ยิ่งทำให้นิครู้สึกว่าตัวเองโสมมที่ต้องใช้เธอ เป็นเครื่องมือเพื่อเข้าใกล้วัสซิลลี่ให้ได้มากที่สุด นิคมีฉายาที่เพื่อน ๆ ตั้งให้ว่าไอซ์แมน เพราะเขาควบคุมตัวเองเป็นเยี่ยมในขณะออกปฎิบัติภารกิจแต่กับแชริตี้แล้วนับ วันยิ่งเขาได้รู้จักเธอมากขึ้นนิคยิ่งกว่าตกอยู่ในอารมณ์มัวเมาซึ่งอ่านแล้ว ก็ไม่รู้สึกว่าเขาขัดแย้งนะคะ สรุปว่าหื่นเอาการตามสไตล์ ลิซ่า มารี ไรซ์ แล้วกัน
                เรื่องนี้โดยรวมแล้วความสัมพันธ์ของนิคและแชริตี้ค่อนข้างลงตัวและตัวร้ายมี ที่มาที่ไปชัดเจนค่ะ  ฉากจบไม่ห้วน และเปิดเรื่องมาก็ทำได้เก่ไก๋มาก นางเอกก็ใช้ได้ค่ะไม่ฟูมฟายเรื่องมากจนน่ารำคาญและอ่อนปวกเปียกจนเกินไป

คะแนนความพอใจ 8

7 ตุลาคม 2554

เผด็จรักอันตราย : Dangerous Lover / Lisa Marie Rice

เผด็จรักอันตราย : Dangerous Lover
เดาว่าหนังสือของ Lisa Marie Rice จากชุดมิดไนท์คงขายดีเป็นเทน้ำเทท่าคริสตัลถึงได้ปั่นออกมาให้แฟน ๆ ได้อ่านอีกสองเล่มรวด รวมแล้วปีนี้ปีเดียวคนไทยได้อ่านหนังสือของ LMR ทั้งหมดห้าเล่มแบบจุใจ เราไม่ได้ทำสถิติไว้นะคะว่าปีหนึ่ง ๆ มีหนังสือของคนแต่งคนไหนออกขายบ้าง (ซึ่งโปรเจคนี้คิดว่าจะทำค่ะแต่ยังไม่มีเวลา) แค่เราคิดว่า LMR  ก็น่าจะเป็นหนึ่งในเขียนขายดีที่มีหนังสือออกเยอะมากคนหนึ่ง
เรื่องนี้เป็นเล่มแรกของชุด Dangerous  ซึ่งมีทั้งหมดสามเล่มค่ะ



เหตุผลเดียวที่แจ๊ค เดินทางกลับมาซัมเมอร์วิลล์บ้านเกิดของเขาคือการได้เห็นหน้าแคโรไลน์สัก ครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ยังค้างคาใจเขามาตลอดสิบสองปีนับแต่พ่อขี้เมาของเขาตาย และแจ๊คออกจากเมืองไปเป็นทหารรับจ้างโดยการชักนำของนายพันพรีสกอตต์พ่อ บุญธรรมที่รับเขาไปเลี้ยงโดยที่แจ๊คไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้ร่ำลาแคโรไลน์ การได้กลับมาพบเธออีกครั้งทำให้แจ๊คได้รู้ว่าแคโรไลน์ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอีก ต่อไปแล้ว
แคโรไลน์จำไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วแจ๊คคือเบน เด็กหนุ่มจากสถานสงเคราะห์เพื่อนสนิทวัยเด็กของเธอเอง เขาเปิดเผยประวัติบางส่วนกับแคโรไลน์เพียงแค่ว่าพ่อของเขาเป็นอดีตนายทหาร ที่ลาออกมาเปิดบริษัททหารรับจ้าง ภายหลังเขาก็ลาออกมาช่วยพ่อบริหารบริษัทจวบจนพ่อตายไปเมื่อเร็ว ๆ นี้  เพราะความที่แจ๊คเป็นทหารนี่เองภาพลักษณ์ของผู้ชายแปลกหน้าดูอันตรายที่มาขอ เช่าห้องพักของเธอจึงลดทอนความหวาดหวั่นของเธอลง และในช่วงนี้ซึ่งเธอต้องการเงินอย่างที่สุดเป็นเรื่องยากที่เธอจะปฏิเสธเขา
แจ๊คไม่รู้เลยว่าเขาเหมือนอัศวินขี่ม้าขาวสำหรับแคโรไลน์ที่กำลังรับมือ กับความรู้สึกสูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุรถยนต์ซึ่งใกล้วันครบรอบที่ทั้งคู่ จากไปพอดี และปัญหาจุกจิกอีกนับสิบที่เกินมือผู้หญิงเล็ก ๆ ตัวคนเดียวจะรับไหว เขาได้เจอแคโรไลน์ในจังหวะที่เธอกำลังลำบากตามลำพังหลังจากที่ต้องเหน็ด เหนื่อยพยาบาลน้องชายจากอุบัติเหตุนั้นอยู่ถึงหกปี อย่างไรก็ตามแจ็คก็ไม่กล้าบอกว่าเขาคือเบน ซึ่งไม่ได้เป็นคนจนอีกต่อไปแล้วตรงข้ามเขามีเงินมากมายที่จะทำให้เธอไม่ ต้องอยู่อย่างอดอยาก ความลังเลของแจ๊คกลายเป็นปัญหาในเวลาต่อมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อเดเวอร์ ทหารร่วมอาชีพด้วยกันกำลังตามล่าแจ๊คเพราะเขาไปขัดขวางแผนการปล้นของเดเวอร์ และช่วงชิงเพชรที่ยังไม่ผ่านการเจียรนัยมูลกว่ากว่ายี่สิบล้านเหรียญจาก ภารกิจสุดท้ายในแอฟริกามาด้วย
บรรยากาศของเรื่องนี้อยู่ในช่วงเทศกาลคริสมาสฉากในเรื่องจึงเต็มไปด้วย หิมะ ค่ะ สไตล์พระเอกยังคงเหมือนชุดมิดไนท์คือพระเอกมีภูมิหลังเป็นทหารผ่านศึกสงคราม มาอย่างโชกโชนดังนั้นจึงรับประกันได้ว่าเขาเข้มแข็งเป็นหลักป้องกันให้กับ นางเอกได้แน่ ๆ เราว่าแจ๊คหวานดีตรงที่เขาไม่เคยลืมรักแรกได้เลย       แคโรไลน์ฝังอยู่ในความทรงจำของเขามายาวนานถึงแม้แจ๊คจะผ่านผู้หญิงมามากมาย แต่ไม่มีใครแทนที่เธอได้เลย โดยรวมแล้วพลอตมีที่มาที่ไปชัดเจนกว่าชุดมิดไนท์ค่ะ แต่เราก็รู้สึกว่ามีหลายฉากในเรื่องที่ดูจะบังเอิญมากจนเกินไปตรงดิ่งมาหาแค โรไลน์ กรณีแจ๊คมีเหตุผลพอเข้าใจได้ หรือเดเวอร์ที่มีแผนจะใช้เธอเพื่อขู่แจ๊คก็เป็นเรื่องปกติเคยเจอบ่อย ๆ ในเรื่องคล้ายกัน แต่การที่คนรักเของแคโรไลน์หวนกลับมาหลังจากผ่านไปนานแสนนานค่อนข้างเหลือ เชื่อสำหรับเราค่ะ  ที่จู่ ๆ ก็เกิดตาสว่างขึ้นมาเห็นความดีในตัวเธอ
ส่วนนางเอกบุคลิกไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ บล็อกเดิมถอดแบบมาจากชุดมิดไนท์ เรียบร้อย อ่อนหวานและน่าทะนุถนอม  การเดินเรื่องของเล่มนี้จะเป็นลักษณะตัดสลับฉากไปมาของตัวละครหลักระหว่าง พระเอก-นางเอก,เดเวอร์,แซนเดอร์ คนรักเก่าของแคโรไลน์ ถ้าหนังสือหนามันก็โอเคนะคะแต่เรื่องนี้หนาแค่สองร้อยกว่า ๆ แทบไม่มีเนื้อที่ในการให้แจ๊คได้สารภาพว่า “เอาชีวิตของเขาเป็นเดิมพันได้เลยว่า จะไม่มีวันทรยศเธอ”

คะแนนความพอใจ 7

27 กันยายน 2554

ล่ารักพิทักษ์เธอ - Woman On The Run By Lisa Marie Rice


หลายวันที่ผ่านมาได้อ่านนิยายสนุก ๆ  สามเล่มติด ๆ กันเลยรู้สึกหึกเหิมมากพอที่จะหยิบหนังสือชองลิซ่า มารี ไรซ์ เล่มแปลเรื่องล่าสุดมาอ่านค่ะ หลังจากที่เคยฮือฮากันทั่วบ้านทั่วเมืองมาแล้วจากชุด  Midnight Series (เว่อร์ไปมั๊ยเนี่ย แต่ถ้าใครได้อ่านชุดนี้แล้วจะเข้าใจนะเราหมายถึงอะไร)  เราเขียนไว้แล้วค่ะตามไปอ่านกันได้ โดยคลิ๊กแทคด้านล่างชื่อผู้แต่งค่ะ



ล่ารักพิทักษ์เธอ - Woman On The Run By  Lisa Marie Rice 
แปล : รำภาสะหรี  สำนักพิมพ์ : คริสตัลพับลิชชิ่ง 

เรื่องนี้เป็นเล่มเดี่ยวของลิซ่า มารี ไรซ์ เขียนหลังจากที่สองเล่มแรกชุดมิดไนท์ขายไปสองเล่มค่ะ เข้าไปดูเว็บของเธอเลยรู้ว่าลิซ่าเขียนหนังสือปีละเล่มเท่านั้นเอง
เปิดเล่มมาก็กล่าวถึงนางเอกของเรื่อง จูเลีย เดอโวซ์ ถูกศาลสั่งกันตัวเป็นพยานจากที่เธอไปเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมของมาเฟียเข้าโดย บังเอิญ ตามแผนการโครงการคุ้มครองพยานแล้วมันส่งผลให้เธอต้องระเห็จไปอยู่ในเมือง เล็ก ๆ โดยมีคำประกาศล่าตัวเธอของโดมินิค ซานตาน่า เป็นเงินรางวัลฆ่าปิดปากถึงหนึ่งล้านเหรียญตามหลังมาติด ๆ
จูเลีย ต้องเริ่มต้นตัวตนใหม่ภายใต้ชื่อแซลลี่ แอนด์เดอเซ่นรวมถึงอาชีพใหม่ ประวัติใหม่ มีชีวิตประจำวันด้วยการเป็นครูสอนเด็กประถม เธอรู้สึกผิดที่ผิดทางซึ่งไม่ใช่เธอเลยที่ต้องมาจมปลักในเมืองที่ห่างไกล ความศิวิไลซ์ แต่อาการโหยหาความสุขเก่า ๆ ในเมืองใหญ่ถูกขจัดไปได้อย่างรวดเร็วเมื่อจู่ ๆ แซม คูเปอร์ มาพบเธอพร้อมจดหมายที่ จูเลียเขียนไปถึงผู้ปกครองแสดงความกังวลกับพฤติกรรมลูกศิษย์เธอคนหนึ่ง การเจอกันครั้งแรกของคู่นี้วุ่นวายพอสมควรค่ะ เพราะแซมไม่ได้เป็นแค่เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์แต่เขาเป็นอดีตหน่วยจู่โจมพิเศษ หรือที่รู้จักกันดีว่าซีล รูปร่างลักษณะและท่าทางดุดันของเขาจึงทำให้จูเลียเข้าใจผิดคิดว่าแซมเป็นนัก ฆ่ามาเด็ดหัวเธอ
อย่างที่บอกไว้ค่ะว่าจูเลียเริ่มไม่รู้สึกว่าตัวเองสูญเสียทุกสิ่ง ทุกอย่างในชีวิตไปหลังจากที่ได้พบแซม เพราะเธอมีเขาคอยป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ ๆ ดึงดูดให้จิตใจเธอไขว่เขว้ได้มากกว่า ส่วนแซมอดีตทหารหน่วยซีลที่หันมาเอาดีกับอาชีพทำฟาร์มปศุสัตว์ซึ่งเป็นมรดก ตกทอดมาหลายร้อยปีของครอบครัว หลงรักจูเลียแทบจะแว่บแรกที่เห็นหน้าเธอ จูเลียไม่รู้ตัวเลยว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวในรอบระยะเวลาสองปีที่ทำให้เขา โล่งอกเลิกกังวลว่าตัวเองเป็นกามตายด้านรึเปล่า นอกจากนั้นเธอก็เหมือนแม่พระมาโปรดในครัวของเขาตลอดเวลายาวนานที่ไม่เคยมี ผู้หญิงคนไหนทนอยู่ในฟาร์มของเขาได้นานพอ
ระหว่างที่ความสัมพันธ์ของแซมและจูเลียเป็นไปได้ด้วยดี นักฆ่าล่าเงินรางวัลก็คืบคลานเข้ามาใกล้จะได้แหล่งกบดานของจูเลียมากยิ่ง ขึ้นทุกที แต่อยากจะบอกว่าเราโคตรจะรำคาญคาร์แรคเตอร์ที่คนแต่งสร้างภาพให้มือปืนล่า สังหารคนนี้มีรสนิยมสูงลิบลิ่วทั้งเรื่องอาหารและจิบเครื่องดื่มแพง ๆ ขณะฟังดนตรีคลาสสิคชั้นสูง มันไม่ได้เกื้อหนุนให้เรารู้สึกว่านักฆ่าคนนี้น่ากลัวแต่อย่างใดเลย
บรรยากาศส่วนใหญ่ในเรื่องจะคล้าย ๆ กับพลอตรักของหนุ่มสาวที่เกิดขึ้นในเมืองเล็ก ๆ ชุมชนที่อบอุ่นและช่วยเหลือกันแต่ก็หนีไม่พ้นความอยากรู้อยากเห็นที่ใครทำ อะไร ที่ไหน ไม่เคยรอดพ้นสายตา ซึ่งพลอตก็ค่อนข้างโอเคสำหรับเรานะคะชอบประเด็นที่นางเอกถูกส่งมาอยู่ในถิ่น ที่บังเอิญมีอดีตทหารหน่วยจู่โจมพิเศษอาศัยอยู่ แถมยังเป็นพระเอกที่ชอบปกป้องมาก ๆ ซะด้วยซึ่งก็มีบางฉากเหมือนกับว่าคนแต่งจงใจให้หนังสือออกโทนคอมเมอดี้นิด ๆ ด้วย
ปิดท้ายด้วยสำนวนแปล ชื่อนักแปลใหม่ บางประโยคเรียงคำวกวน หรือเรียงเป็นประโยคที่อ่านแล้วเข้าใจยากทำให้ต้องอ่านทวนซ้ำ  มีเขียนสลับ พิมพ์ตกบ้างประปราย แต่บางประโยคก็สื่อสารได้ดีค่ะ


คะแนนความพอใจ 6+

28 กุมภาพันธ์ 2554

นางฟ้ารัตติกาล - Midnight Angel by Lisa Marie Rice

จากสองเล่มแรกถ้าใครได้อ่านกันไปแล้วคงทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า Lisa เขียนหนังสือได้ฮอตและใช้ภาษาที่แรงมากสำหรับเล่มแปล ก็มีทั้งเสียงตอบรับที่รับได้และชอบพลอตเรื่องทำนองนี้นะคะ เราเองถ้าได้อ่านแค่เล่มสองเล่มก็คิดว่าสนุกดีเหมือนกันแต่อ่านบ่อย ๆ ติด ๆ กันนี่ยอมรับว่าบิ้วอารมณ์ไม่ไปเอาซะเลย เพราะมันก็มีฉากอย่างว่าซ้ำ ๆ กันอยู่อย่างนั้น เราว่าแนวอีโรติกก็คงเหมาะที่จะหยิบมาอ่านคั่นเวลายามเบื่อ ๆ มากกว่าค่ะ



หนังสือเล่มที่สามของชุดนี้ เหตุการณ์เรื่องนี้จะเกิดใกล้เคียงกันกับท้ายเล่มที่สองซึ่งอาจจะต้อง spoil บ้างนะคะ


นางฟ้ารัตติกาล - Midnight Angel by Lisa Marie Rice

แปล : เชราญ่า. คริสตัล พับลิชชิ่ง



ดักลาส โควาลสกี้ เคยเป็นเนวีซีลก่อนที่จะลาออกตามคำชวนของจอห์น ฮันทิงตัน เพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชาของเขา เพื่อร่วมหุ้นเปิดบริษัท Alpha Security International ในพอร์ทแลนด์ ด้วยกัน ซูซานซึ่งพึ่งแต่งงานกับจอห์นได้ไม่นานต้องไปดูแลงานเปิดนิทรรศการเครื่องเพชรมูลค่าหลายร้อยล้านบาทที่เธอเป็นผู้ออกแบบตกแต่งสถานที่ดักลาสได้ถูกชักชวนให้ไปร่วมงานด้วยโดยไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเพลิดเพลินกับงานครั้งนี้นักเพราะดักลาสคิดว่าตัวเองมีหน้าตาที่หน้าเกลียดที่ทำให้ผู้คนต่างหวาดกลัวและตกใจต่อใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นจากผลของสงครามน้อยคนนักที่จะเก็บอาการให้นิ่งเฉยได้เมื่อมองหน้าเขาจนกระทั่งดักลาสได้ช่วยเหลือนักร้อง นักดนตรี ที่เป็นเพื่อนรักของทั้งซูซานและแคร์ลจากโจรที่เข้ามาบุกปล้นหวังจะขโมยเครื่องเพชร



อัลเลกร้า เอนนิส ยังคงอยู่ในภาวะเศร้าซึมจากการสูญเสียพ่อและมากไปกว่านั้นเธอสูญเสียการมองเห็น อัลเลกร้าเกลียดที่จำต้องพึ่งพาความช่วยเหลือของคนอื่นและไม่อาจยอมรับว่าเธออาจตาบอดตลอดไป อย่างไรก็ตามอัลเลกร้าไม่เคยสิ้นหวังและเชื่อว่าตัวเองจะหายกลับมาปกติเหมือนดังเช่นเดิม ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เมื่อห้าเดือนที่แล้วซึ่งเธอยังจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้มากนัก



เรื่องนี้พระเอกและนางเอก มีความไม่สมบูรณ์แบบมากที่สุดที่เราเคยอ่านมาค่ะ โดยเฉพาะพระเอก ที่คนแต่งทดแทนด้วยร่างกายที่ล่ำบึ๊กและคลั่งเซ็กส์เหมือนเคย นอกจากนั้นคาแรคเตอร์ที่ขัดแย้งมาก ๆ ก็คือความอ่อนโยนและรักในเสียงเพลงโอเปร่า ของดักลาส พฤติกรรมที่เขาแสดงให้นางเอกเห็นว่าเธอไม่ใช่ภาระของเขาที่จำต้องทน ก็เป็นนิสัยอีกอย่างที่ทำให้อัลเลกร้ารู้สึกปลอดภัยและไว้ใจเขาได้ด้วยชีวิต



เราว่าคนแต่งก็เข้าใจคิดพลอตค่ะ เพราะดักลาสก็มีปมเรื่องใบหน้าอยู่ถึงแม้เขาจะทำเหมือนไม่แคร์ก็ตาม แต่อัลเลกร้าตาบอดเธอไม่สามารถมองเห็นความอัปลักษณ์ของเขา ความรู้สึกไม่มั่นใจของดักลาสจึงลดลง เขาจึงไม่ได้ปิดกั้นตัวเองตกหลุมรักอัลเลกร้าเต็มเปาซึ่งถ้าไม่นับอาการตาบอดของเธอ อัลเลกร้าก็คงเป็นผู้หญิงที่อยู่ไกลเกินสุดเอื้อมสำหรับเขา แต่โดยรวมแล้วนางเอกเรื่องนี้ก็เหมาะกับดักลาสดีค่ะ ในเมื่อเธอก็จำเป็นต้องการ การปกป้องให้ปลอดภัยและดักลาสก็แสดงให้เธอเห็นในทุกทางแล้วว่าเขาแคร์เธอมากเพียงใด


คะแนนความพอใจ 7/10

18 กุมภาพันธ์ 2554

เจ้าหญิงแห่งรัตติกาล - Midnight Run///Lisa Marie Rice

ในช่วงอากาศที่ร้อนมากขนาดนี้ การมีวันหยุดยาวสามวันติดต่อกันนอนอ่านหนังสือที่บ้าน เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วค่ะสำหรับเรา ทำให้วันนี้เราอ่านหนังสือจบไปอีกหนึ่งเล่มตามที่บอกไปแล้วเมื่อวานนี้ว่าจะหยิบเล่มที่สองของชุดนี้มาอ่าน ซึ่งเป็นการตัดสินที่ถูกต้องเลยล่ะเพราะดีกว่าเล่มแรกเยอะมาก


แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะคะว่า ในตอนต้นของเรื่องนี้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นก่อนเล่มแรกประมาณเจ็ดวัน ทำให้ดูเหมือนว่าเรียงเล่มผิด แต่อ่านไปสักระยะเวลาจะเกิดใกล้เคียงกันเลยค่ะ และดูเหมือนว่าเหมือนเล่มแรกจะ spoil ความสัมพันธ์ของคู่เล่มสอง ไปในตัวซะแล้ว งงกันไหมคะ



เจ้าหญิงแห่งรัตติกาล - Midnight Run///Lisa Marie Rice

ผู้แปล : เชราญ่า. คริสตัล พับลิชชิ่ง

ไทเลอร์ มอร์ริสัน หรือ บั๊ด นักสืบแผนกฆาตกรรมอยู่ระหว่างสืบคดีและตามล่าอาชญากรข้ามชาติ ในคลับแห่งหนึ่ง แต่แผนเกิดผิดพลาดกลับตาละปัดกลายเป็นว่าบั๊ดได้กลายเป็นอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วย แคลร์ พาร์ค ให้รอดพ้นจากพวกติดยาที่มาลวนลามเธอ ซึ่งในสายตาของบั๊ดแล้วแค่มองปราดเดียวเขาก็รู้แล้วว่า แคร์ลเป็นผู้หญิงที่เขาจะหลีกห่างแม้จะต้องการเธอตั้งแต่เห็นแว่บแรกบั๊ดก็พยายามหักห้ามใจเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่เขาตั้งกฎไว้ว่าไม่ควรยุ่ง เขาชอบมีเซ็กส์ที่ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนมากกว่า แต่บั๊ดไม่รู้ว่าแคร์ลต้องการไขว่คว้าหาประสบการณ์ชีวิตในช่วงที่ขาดหายไปจากการเจ็บป่วยมาเป็นเวลานาน เธอได้ตกลงใจเลือกบั๊ดให้เป็นชายหนุ่มที่จะมอบคืนสุดพิเศษให้เธอ บั๊ดตกเป็นเป้าหมายโดยไม่รู้ตัว เมื่อแคร์ลวางแผนจะล่อลวงเขาขึ้นเตียง

เมื่อตอนอายุสิบห้า แคลร์ พาร์ค เคยป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือด เกือบตายก็หลายครั้ง แต่เธอก็เข้มแข็งดิ้นต่อสู้จนมีชีวิตรอดมาได้จากการปลูกถ่ายไขกระดูก อาการเจ็บป่วยของแคร์ลได้ปล้นช่วงเวลาในวัยแห่งความสุขของเธอไปแคร์ลจึงต้องการชดเชยมอบรางวัลชีวิตใหม่ให้ตัวเองที่เคยพลาดไป ค่ำคืนสุดหฤหรรษ์ของทั้งคู่จึงรวดเร็วยิ่งกว่าจรวดอีกค่ะซึ่งในส่วนนี้จะไม่ต่างจากเล่มหนึ่งเลย

พอบั๊ดได้รู้เกี่ยวกับอดีตของแคร์ล เขาก็เปลี่ยนเป็นผู้ชายอีกคน ปฏิบัติต่อเธอราวกับว่าแคร์ลเป็นคนอ่อนแอช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ การกระทำของบั๊ดกลับสร้างความเจ็บปวดให้กับแคร์ลมากกว่าที่เธอเคยมีมา

แคร์ลจึงบอกกับตัวเองว่าเธอจะไม่ขอทนอีกต่อไป เธอได้รับการเลี้ยงดูแบบทนุถนอมมามากพอแล้วทั้งจากพ่อและหมอที่ทำการรักษา เธอต้องการยืนหยัดด้วยตัวเอง เธอต้องการบั๊ดคนเก่ากลับคืนมา บั๊ดที่ไม่เคยมีความยับยั้งช่างใจในเวลาที่ต้องการเธอ แคร์ลจึงลงมือปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่แตกหักได้ง่าย และเขาคิดผิดถนัดที่คิดว่าเธอจะยอมรอนิ่งเฉยดุจสุภาพสตรีคนหนึ่งจะเลือกทำ



อ่านเรื่องนี้จบก็ทำให้รู้ว่านางเอกของชุดนี้ทั้งสามเล่มเป็นเพื่อนรักกันนะคะ ซึ่งโดยรวมแล้วคาร์แรคเตอร์พระเอกมีพฤติกรรมเหมือนกันคือคล้ายหนุ่มวัยรุ่นคลั่งเซ็กส์ สูญเสียการควบคุมตัวที่เคยมีกับผู้หญิงคนอื่นอย่างสิ้นเชิงเมื่อได้พบนางเอก ทำให้พอเชื่อได้บ้างนะคะว่าพวกเขาไม่ได้ใช้เซ็กส์นำหน้าความสัมพันธ์ ภาษาแปลยังคงหยาบโลนในบางคำทำให้บางครั้งอดนึกตะหงิดในใจไม่ได้ แต่เราชอบนางเอกเรื่องนี้รวมไปถึงพลอตที่ดูมีสาระมากขึ้นกว่าเดิม นี่จึงเป็นที่มาของคะแนนที่มอบให้ค่ะ





คะแนนความพอใจ 8/10

บุรุษรัตติกาล - Midnight Man by Lisa Marie Rice

บางคนอาจทราบมาบ้างแล้วนะคะว่า ลิซ่า เป็นนักเขียนที่เขียนพระเอกของเธอให้อารมณ์คล้ายพระเอกของลินดา โฮเวิร์ด ในสไตล์อัลฟ่า ซึ่งเหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เรายอมลงทุนซื้อหนังสือชุดนี้มาอ่านสามเล่มรวด



Midnight Series

1. Midnight Man (2003)///บุรุษรัตติกาล

2. Midnight Run (2004)///เจ้าหญิงแห่งรัตติกาล

3. Midnight Angel (2006)///นางฟ้ารัตติกาล



บุรุษรัตติกาล - Midnight Man by Lisa Marie Rice

แปล : เชราญ่า คริสตัล พับลิชชิ่ง

แค่ได้เห็นจอห์น ฮันทิงตัน เพียงแว่บแรก ซูซาน บาร์รอน ก็บอกตัวเองว่าเขาเป็นผู้ชายที่สุดอันตรายและไม่ใช่ในแบบที่เธอคิดไว้จากการที่เคยติดต่อกันทางอินเตอร์เน็ตเพื่อตกลงทำสัญญาเช่าตึกของเธอ เปิดบริษัทรักษาความปลอดภัย

จอห์น เป็นอดีตทหารจากหน่วยซีลที่ต้องเกษียณตัวเองภายหลังได้รับบาดเจ็บสาหัส เขากำลังมองหาสถานที่เปิดบริษัทรักษาความปลอดภัย Alpha Security International จนได้พบและตัดสินใจเช่าตึกของซูซานเพราะติดใจในสไตล์ตกแต่งของเธอแต่เขาก็มีข้อเสนอแนะให้เธอติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ ทั้งคู่จึงแลกเปลี่ยนกันว่าเธอจะออกแบบออฟฟิศให้เขาเพื่อแลกกับการที่เขาจะจัดระบบสัญญาณเตือนภัยให้เธอ แต่ยังไม่ทันที่จอห์นจะลงมือ ห้องของซูซานก็ถูกมือปืนรับจ้างบุกรุกหมายจะฆ่าเธอเสียก่อน ประสบการณ์ของจอห์น บอกเขาว่ามีใครบางคนที่มีอิทธิพลสูงมาก ๆ ต้องการจำกัดเธอเพื่อปิดปาก

ปกหลังของหนังสือเรื่องนี้ spoil ในส่วนของการสืบสวนไปเกือบหมดซึ่งควรจะเป็นแกนหลักของเรื่องเลยไม่มีอะไรให้ลุ้นว่าใครไล่ล่านางเอก ทำให้ฉากเลิฟซีนดูเด่นตื่นตาตื่นใจ แต่ที่ชัดเจนคือบุคลิกที่เข้มแข็งและช่างปกป้องนางเอกอย่างมากของจอห์น บางอย่างที่เขาคาดว่าเธอต้องเห็นด้วยเช่นฉากที่จะพาเธอไปดินเนอร์ จอห์นก็ถามซูซานแค่ว่าเธอชอบร้านไหน พอเธอตอบเขาก็ตัดบทว่าจะมารับในเวลานี้ ๆ โดยนึกคิดว่าซูซานต้องรับปากไปกับเขาแน่

ด้วยภาษาแปลที่แรงบวกกับบุคลิกของจอห์นที่ชอบความเร็วแรงใช้ซูซานชนิดไม่มียั้งทำให้ฉากธรรมดาอย่างฉากเลิฟ ซีนกลายเป็นความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาไปได้ค่ะ ถึงแม้เล่มนี้ไม่ใช่เล่มที่ดีที่สุดสำหรับเรา แต่คาร์แรคเตอร์ของพระเอกแนวอัลฟ่าก็จูงใจเรามากพอที่จะหยิบเล่มที่สองขึ้นมาอ่านต่อทันที



คะแนนความพอใจ 7/10