Black Dagger Brotherhood
1. Dark Lover (2005)
2. Lover Eternal (2006)
3. Lover Awakened (2006)
4. Lover Revealed (2007)
5. Lover Unbound (2007)
6. Lover Enshrined (2008)
7. Lover Avenged (2009)
8. Lover Mine (2010)
9. Lover Unleashed (2011)
Lover Unbound: J.R. Ward
ชื่อผู้แปล: จิตอุษา สำนักพิมพ์: เกรซพับลิชชิ่ง
- กลุ่มภราดรแบล็กแด็กเกอร์ เหล่านักรบแวมไพร์ที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างเชี่ยวชาญคอยทำหน้าที่ปกป้องเผ่าพันธ์ของพวกเขาจากพวกเลสเซนนิ่ง โซซายตี้ การคัดสรร สายเลือดภายในเผ่าพันธ์ทำให้กลุ่มภราดรมีความแข็งแกร่ง ทั้งด้านร่างกายและพลังแห่งจิตใจ
เช่นเดียวกับที่มีความสามารถในการเยียวยาตนเองได้อย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาไม่ใช่ พี่น้องกันทางสายเลือดและได้รับการชักนำเข้าสู่การเป็นภราดรด้วยการเสนอชื่อจากภราดรคนอื่น ๆ พวกเขามีความกร้าวกระด้างดุดัน เชื่อมั่นในตนเอง และรักที่จะเก็บความลับและรักษา ความเป็นส่วนตัว อยู่อย่างปลีกเร้น แยกตัวจากผู้คนส่วนใหญ่ มีการติดต่อกับสมาชิกในชนชั้นอื่น ๆ
เพียงเล็กน้อย ยกเว้นในตอนที่จำเป็นต้องดื่มกิน พวกเขาเป็นตำนานและเป็นที่นับถือบูชาใน โลกแห่งแวมไพร์ จะถูกสังหารได้ก็ต่อเมื่อได้รับบาดแผลร้ายแรงที่สุด เช่นถูกยิงหรือถูกแทงเข้าที่หัวใจ
- เดอะสไครบ์เวอร์จิน พลังอำนาจเร้นลับซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้แก่องค์ราชาและที่เป็นผู้ปกปักรักษา เหล่าแวมไพร์ ตลอดจนผู้ประสิทธิประสาทพร มีที่พำนักอยู่ในอาณาจักรไร้กาลเวลาและมีพลัง อำนาจที่ยิ่งใหญ่ สามารถที่จะเสกสรรให้กำเนิดสรรพสิ่ง ซึ่งนางได้ใช้อำนาจนั้นทำให้เกิเหล่า แวมไพร์ขึ้นมาในโลก
- ดิโอเมก้า บุคคลผู้ลึกลับและมุ่งร้ายที่มีเป้าหมายว่าจะขจัดเหล่าแวมไพร์เพื่อระบายความ ชิงชังไปยังเดอะสไครบ์เวอร์จิน เขามีชีวิตอยู่ในอาณาจักรไร้กาลเวลาและมีพลังอำนาจที่ใหญ่ หลวงนัก แม้จะไม่มีพลังอำนาจในการสร้างเผ่าพันธ์ก็ตาม
- แวมไพร์ สมาชิกของเผ่าพันธ์หนึ่งซึ่งแยกตัวมาจากมนุษย์โฮโมซาเปี้ยนส์แวมไพร์ต้อง ดื่มกินโลหิตของเพศตรงข้ามเพื่อมีชีวิตรอด เลือดมนุษย์ช่วยให้มีชีวิตอยู่ได้ แต่มีความแข็งแกร่ง อยู่ได้ไม่นานนัก เพราะการแปสภาพของพวกเขาซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงที่อายุราวยิ่สิบกลาง ๆ ทำให้พวกเขาไม่สามารถออกไปถูกแสงแดดและต้องได้รับอาหารจากเส้นเลือดเป็นประจำ แวมไพร์ไม่อาจเปลี่ยนแปลงพวกมนุษย์ให้กลายมาเป็นพวกเขาได้ด้วยการกัดหรือถ่ายเลือด แม้ว่าจะมีกรณีนาน ๆ ครั้งที่พวกเขาสามารถมีลูกหลานกับเผ่าพันธ์อื่นได้แวมไพร์ล่องหน ย้ายร่างได้ด้วยพลังจิต แต่จะต้องมีจิตใจที่สงบนิ่งและตั้งสมาธิอย่างมาก ทว่าไม่อาจพา สิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ๆ ไปด้วยได้ พวกเขาสามารถพรากความทรงจำไปจากพวกมนุษย์ และแทรกความทรงจำให้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ได้ แวมไพร์บางรายสามารถที่จะอ่านใผู้อื่นได้ พวกเขามีอายุยาวนานเป็นพันปีขึ้นไป หรือมีบางกรณีที่อาจยืนยาวกว่านั้น
********* ข้อมูลจำกัดความบางส่วนเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ที่มา จาก สำนักพิมพ์เกรซ ขอบคุณค่ะ
เล่มที่ 5 ของชุดนี้แล้วค่ะ เป็นเล่มที่เรารีรอที่จะอ่านอย่างมากเล่มหนึ่ง ถึงแม้วิชั่นจะเป็น ภราดรหนุ่มที่แซงทางโค้งหนุ่มซีมาก็ตาม เราหลงรักวิชั่นตั้งแต่ได้อ่านเล่ม 4 แล้วค่ะ เริ่มแรกก็แค่วีเป็นผู้ชายที่น่ารักและขี้อายนิด ๆ เมื่อเขาอยู่กับบุทช์ หลังจากนั้นก็เริ่มรับรู้ว่า
วีเป็นภราดรที่มีความลับมากมายที่น่าสนใจมากเหลือเกิน
ในเล่มที่ 4 จะมีประเด็นที่คลางแคลงใจความสัมพันธ์ของวิชั่นกับบุทช์ที่เราต้องมาติดตาม ในเล่มนี้กันค่ะ อีกเรื่องหนึ่งที่วีมีห้องชุดส่วนตัวบนตึกสูงห้องหนึ่งเก็บไว้ประกอบกิจกรรมสำหรับ ผู้หญิงที่เขาเรียกใช้ ในห้องนี้จะมีเครื่องพันธนาการ โซ่ล่ามติดฝาผนัง หน้ากากและลูกยางอุดปาก แส้ และเตียงนอนขนาดใหญ่ ที่เขาไม่เคยใช้ แม้วีจะมีความสุขที่ได้เห็นคนอื่นทุกข์ทรมาน แต่เขาก็ไม่ เคยทำร้ายผู้หญิงที่พลีกายให้ การควบคุมความคิดและร่างกายของผู้พลีกายให้คือสิ่งที่เขาแสวงหา ขบวนการนี้จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของเขาเพียงผู้เดียว และเมื่อเขาเสร็จเรื่องกับพวกเธอ วีจะลบความทรงจำถึงสถานที่ที่ผู้พลีกายมาเยือน หลังจากบุทช์และเมลิสาได้ครองคู่กัน การเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ไม่มีอะไรเหมือนความรุนแรงที่วีมี มาตลอดชีวิต มันเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความใกล้ชิดและความอ่อนโยน เขาสงสัยว่ามันจะ เป็นอย่างไรเมื่อได้มีความสุขแบบนั้นบ้าง เขาจะชอบมันไหม เขาไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าเขา จะยอมให้ใครแตะต้องเขารึเปล่า อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเราคิดว่าวีเป็นผู้ชายที่อ้างว้างสุด ๆ ค่ะ
ในวันเกิดครบรอบสามร้อยปีของวี สไครบ์เวอร์จิน ได้เลือกผู้ได้รับเลือกที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุด มาเป็นคู่ครองคนแรกของเขา เพื่อให้กำเนิดลูกหลาน โดยลูกสาวจะกลายเป็นผู้ได้รับเลือกและลูกชายจะกลายเป็นสมาชิกของกลุ่มภราดร มันเป็นชะตาชีวิตของเขา มันเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้ ความอยู่รอดของเผ่าพันธ์ ความอยู่รอดของกลุ่มภราดรและความจริงอันน่าตกใจที่เขาได้รับรู้จากปากสไครบ์เวอร์จินว่า (spoil)
สไครบ์เวอร์จินเป็นแม่ของเขาเอง
คืนนั้นเองที่วีได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกยิงกระสุนเจาะเข้ามาตรงกลางอก หลังเสร็จสิ้นจากการตามเชือดแลสเซอร์ วีถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลของมนุษย์อยู่ในความดูแลของ เจน วิทคอมบ์ หมอผ่าตัด หัวหน้าแผนกอุบัติเหตุ เจนเป็นผู้หญิงที่ใช้ชีวิตเพียงลำพังเมื่อพ่อและแม่เสียชีวิตเธอก็ไม่เหลือใครในครอบครัวอีก เวลาทั้งหมดของเธอทุ่มเทให้กับงานที่โรงพยาบาล เพื่อนเพียงคนเดียวที่เธอคุยด้วยมีเพียงหมอ มานูเอล หัวหน้าแผนกของเธอ
ทันทีที่วีรู้สึกตัวตื่นจากการผ่าตัดหัวใจ การรับรู้ตัวตนของเจนก็กระทบ ใจเขาอย่างรุนแรง เป็นแรงกระตุ้นของความเป็นเจ้าของที่วีไม่เคยคิดว่าตัวเองมีอยู่ คำว่า "ของฉัน" ผุดขึ้นมาในใจเขาก่อนที่เขาจะลืมตามองเห็นเจนด้วยซ้ำ มันเป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่เขาอยากจับจองเธอเป็นเจ้าของ เขาห้ามใจตัวเองไม่ได้ การลักพาตัวเจนจึงเริ่มขึ้น มันเป็นการเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนชะตากรรมของเธอจนหมดสิ้น ย้อนกลับไปเมื่อเจนอายุสิบสามค่ะ เธอเคยเล่นผีถ้วยแก้ว ด้วยคำถามว่า เธอจะได้แต่งงานกับใคร คำตอบที่เธอได้รับคือ "วิชั่น"
เจนเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญค่ะ เธอมีจิตใจที่แข็งแกร่งและมองโลกตามความเป็นจริง นั่นทำให้เธอนั่งมองวีดื่มกินโลหิตของเมลิสาเพื่อเยียวยาได้ เธอจะรักษาวี ให้เขาหายเป็นปกติ แสร้งทำว่าวีก็แค่คนไข้ธรรมดา ๆ ของเธอคนหนึ่ง ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากคนไข้คนอื่นของเธอเลย แม้ความจริงแล้วสมองของเจนกำลังปั่นป่วนสุด ๆ วีกำลังทำให้เธอติดใจหลงใหลด้วยเหตุผลที่นอกเหนือจากการเป็นเพียงแค่คนไข้ของเธอ เจนควรจะตื่นกลัวเมื่อเธออยู่ท่ามกลางแวมไพร์ร่างใหญ่โต แต่เธอกลับไม่กลัว ที่น่าแปลกเธอรู้สึกปลอดภัย เธอรับรู้ถึงการปกป้องจากวี นั่นทำให้ เธอต้องท่อง คำว่า สต็อกโฮล์ม สต็อกโฮล์ม สต็อกโฮล์ม (เป็นอาการอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากความผูกพันทางอารมณ์อย่างรุนแรงระหว่างผู้เป็นตัวประกัน กับผู้ถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งโจรอาจไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป )
วีรับรู้ว่าเจนเป็นหญิงสาวนักสู้ที่แสนฉลาดด้วยค่ะ เมื่อเธอยื่นข้อเสนอให้ทั้งคู่แลกเปลี่ยนคำถามเปิดเผยความลับของแต่ละฝ่าย ความลับที่เขาถูกจับมัดและพ่อของเขาทิ้งรอยแผลเป็นไว้ทั่วร่างซึ่งวีไม่เคยเล่าให้ใครฟัง อย่างไรก็ตาม เจนจะจำอะไรไม่ได้เลย เขาต้องลบ
ความทรงจำของเธอเมื่อเจนจากไป มันคือสิ่งที่เขาต้องทำ เพียงแค่ว่าเจนกำลังจะจากไปในเร็ววันนี้ มันก็ทำให้วีเจ็บปวดเสียแล้ว
นับแต่ได้เห็นเจน วีรู้สึกว่าชีวิตเขามีเป้าหมายชัดเจน ทั้งคู่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่เจนจู่โจมเข้ามาในหัวใจเขา ผลักบุทช์ออกไปและเก็บกักตัวเองไว้ในใจของเขา ซึ่งมันให้ความรู้สึกที่ถูกต้องแล้วกับเจนแล้วมันคือการแลกเปลี่ยน เธอมอบบางอย่างให้เขา และเขาก็มอบส่วนหนึ่งของเขาให้เธอด้วย แต่นั่นหมายความว่าวีต้องพาเธอไปที่ห้องชุดส่วนตัวของเขามอบสิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยมอบให้ใครมาก่อน และเขาจะไม่มีวันมอบมันให้ใครอื่นอีก วีจะตอบแทนความไว้วางใจที่เจนมอบให้เขา และเขาจะมอบความไว้เนื้อเชื่อใจนั้นให้เจนก่อนที่เธอจะจากไป
โอย เราแทบอยากจะวางหนังสือลงไม่อยากอ่านต่อเลยค่ะ ไม่ใช่ไม่สนุกแต่เพราะมันบีบหัวใจเรามาก ๆ เมื่อวีมาส่งเจนที่บ้านและเขากำลังจะลบความทรงจำของเธอ เจนวิงวอนเขาด้วยน้ำตานองหน้าว่าเธอไม่อยากจากเขาไป วีบอกเธอว่า " ผมรักคุณ และจะรักตลอดไป แม้หลังจากที่คุณไม่รู้ว่าผมมีตัวตนอยู่"
หลังจากนั้นมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับวี ค่ะ เขาไม่คิดว่าจะมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีเจน อีกต่อไป แต่เขาไม่มีทางเลือก วียังมีภารกิจสำคัญที่ต้องไปร่วมพิธีเพื่อเลือกผู้ได้รับเลือกเพื่อจะผลิตทายาทของเหล่าภราดร แต่ฟิวรี่ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดค่ะ เขาเสนอตัวเป็นตัวแทนของวีเพื่อภารกิจนี้เสียเอง โดยให้เหตุผลแบบติดตลกว่าเขาต้องการชดเชยให้กับเวลาร่วมสองร้อยปีที่ถือพรมจรรย์มา มันจะมีวิธีไหนระบายมันได้ดีไปกว่านี้อีกล่ะ ในเมื่อเขาก็เป็นภราดรที่มีสายเลือดดีเหมือนกับวีเช่นกัน โอ้ สำหรับเราแล้ว ฟิวรี่กลายเป็นพระเอกเล่มหกที่เราอยากอ่านขึ้นมาทันทีทันใด ขอบอก
ปัญหายังไม่หมดไปสำหรับวีหรอกนะคะ การกลับไปหาเจนครั้งนี้เธออาจปฏิเสธเขา เธออาจจะเลือกชีวิตที่เธอรู้จักดีอยู่แล้ว มากกว่าการใช้ชีวิตครึ่งหนึ่งอยู่ในอันตรายกับแวมไพร์สักคน วีจะไม่มีวันเรียกร้องให้เจนสละทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีเพื่อเขาเด็ดขาด
เล่มนี้เจอาร์ วาร์ด ยังคงสไตล์การเขียนแบบตัดฉากสลับไปมาค่ะ เรายังคงได้เห็นซีกับเบลล่า
จอหน์ แมทธิว ซึ่งเล่มนี้แปลงสภาพแล้วและเขาพบกับเส็กซ์แล้ว ซึ่งจะมีเล่มของเขาในลำดับที่ 8 ได้เห็นการเปิดตัวฝาแฝดของวิชั่นและหมอมานูเอล ซึ่งเจอาร์ ก็ทิ้งสัญญาณบางอย่างให้เราต้องติดตามค่ะ มีอีกอย่างหนึ่ง เล่มนี้เราได้รู้จักสไครบ์เวอร์จินดีขึ้นด้วยค่ะ เธอดู เป็นผู้หญิงที่จับต้องได้ และมีหัวใจของความเป็นมนุษย์มากทีเดียว
คะแนนความพอใจ 9.7/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น