8 พฤศจิกายน 2554

นักสู้ผู้พิทักษ์ : Loved Avenged /// J.R. Ward

นักสู้ผู้พิทักษ์ : Loved Avenged
ขณะที่มีข่าวดีว่าเจอาร์ วาร์ด จะเขียนเล่มของทอร์ Lover Reborn  อันดับที่สิบออกขายปีหน้า (2012) ในส่วนของเล่มแปลก็ถึงเล่มเจ็ดค่ะ ถือว่าเล่มอิงค์กับเล่มแปลไม่ทิ้งห่างกันมากนักนะคะ สำหรับคนที่รออ่านอาจคิดว่ารอนานหน่อยแต่ถ้าได้เห็นขนาดหนังสือหนาเกือบแปดร้อยหน้าก็แทบร้องครางล่ะเข้าใจเลยว่ากว่าจะแปลออกมาได้นี่ต้องใช้เวลานานและละเอียดจริง ๆ
เล่มต้น ๆ เราเคยเขียนไว้สมัยที่ยังไม่มีบล็อกย้อนกลับไปอ่านใหม่ก็ขำตัวเองเหมือนกัน

เล่มสาม  มัชจุราชผู้พิทักษ์ –หนุ่มซี   
เล่มสี่  ยอดรักผู้พิทักษ์ – หนุ่มบุทช์ 
เล่มห้า  จอมใจผู้พิทักษ์ – หนุ่มวิชั่น 
เล่มหก  สุภาพบุรุษผู้พิทักษ์ – หนุ่มฟิวรี่

เล่มนี้เป็นเล่มแรกที่พระเอกไม่ได้เป็นหนึ่งในกลุ่มภราดรค่ะ แต่ทุกคนจะคุ้นเคยเรฟเป็นอย่างดีเพราะเขาคือพี่ชายของเบลล่าภรรยาของหนุ่มซีนั่นเอง นอกจากนั้นเรฟยังเป็นเจ้าของคลับซีโร่ซัมที่นักรบภราดรมักไปนั่งดื่มเป็นประจำอีกด้วย
  นักสู้ผู้พิทักษ์ : Loved Avenged /// J.R. Ward
แปลโดย จิตอุษา   เกรซพับลิชชิ่ง   พิมพ์ปี 2554

เมื่ออำนาจของราธ ราชันย์ของแวมไพร์ถูกท้าทาย หลังจากที่มีแวมไพร์ถูก   แลสเซอร์ปล้นฆ่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่นักรบกลุ่มภราดรถูกสมาชิกสภาวิจารย์ว่าไม่ได้ปกป้องหรือหยุดยั้งการโจมตีนี้เลย เป็นภาระหนักอึ้งของ   ราธที่ต้องฝ่าฟันเกมการเมืองของสภา ปกป้องเผ่าพันธุ์จากแลสเซอร์ในขณะที่กลุ่มภราดรมีเพียงหยิบมือเดียว ในฐานะที่เรฟเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจและทรงอิทธิพลของสภาสูงสุดแวมไพร์เขาจึงถูกดึงเข้ามาร่วมแผนการล้มล้างอำนาจของราชันย์ เพื่อก่อตั้งองค์กรแวมไพร์ในรูปแบบใหม่ขึ้นมา
เรฟเป็นลูกครึ่งแวมไพร์และซิมพาธ ซึ่งความเป็นซิมพาธแม้จะเพียงครึ่งเดียวก็เป็นส่วนของความชั่วร้ายจนไม่น่าไว้ใจ (ซิมพาธ เป็นพันธ์หนึ่งในเผ่าแวมไพร์ที่มีศักยภาพและความต้องการที่ควบคุมอารมณ์ต่าง ๆ ของผู้อื่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการแลกเปลี่ยนพลังงาน ในอดีตพวกเขาได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมกัน ถูกพวกแวมไพร์ตามล่าจนใกล้จะสูญพันธ์เต็มที)  ดังนั้นเรฟจึงปกปิดครึ่งซิมพาธนี้ไว้มีเพียงกลุ่มภราดรเท่านั้นที่ล่วงรู้ความลับนี้ของเขา แต่ความลับของเรฟก็ถูกเจ้าหญิงแห่งอาณานิคมซิมพาธฉวยโอกาสตลบหลังเขาด้วยการขู่จะเปิดโปงหากเขาไม่ให้สิ่งที่เธอเรียกร้อง ดังนั้นตลอดยี่สิบห้าปีที่ผ่านทุกหนึ่งเดือนเรฟจำต้องเดินทางไปพบเจ้าหญิงเพื่อใช้ร่างกายตัวเองสนองตัณหาเธอเพื่อรักษาความลับนี้ไว้
ความที่เรฟมีอำนาจของซิมพาธในร่างครึ่งหนึ่งที่มักระตุ้นให้เขาอยากทำแต่เรื่องชั่วร้าย เขาจึงต้องอาศัยยาเพื่อระงับมันไว้ เหตุนี้เองที่เรฟต้องไปคลินิกของหมอเฮเวอร์ ซึ่งจะมีเพียงเอห์เลน่าที่มักอาสาจะดูแลเขาเพราะพยาบาลคนอื่น ๆ ต่างหวาดกลัวที่จะอยู่ใกล้เรฟ
เอห์เลน่า เคยมีฐานะร่ำรวยก่อนที่พ่อของเธอจะป่วยด้วยโรคสมองเลอะเลือนตอนนี้เธอตกอับอยู่บ้านหลังซอมซ่อ และดูแลอย่างพ่ออย่างไม่ย่อท้อ แต่เรฟไม่เคยรู้และเอห์เลน่าก็ไม่รู้เช่นกันว่าเรฟเป็นพ่อค้ายาเสพติด เป็นเจ้าของคลับและพ่อเล้า เมื่อความดีงามปะทะความเลว เอห์เลน่าเป็นผู้หญิงที่เรฟหมายตาไว้มาตลอด ความดีงามของเธอช่วยสยบความชั่วร้ายของซิมพาธในร่างของเขาได้ เธอเป็นคนเดียวที่ทำให้เรฟอยากทำตัวเป็นคนดี แต่ทั้งคู่ต่างคนต่างคิดว่าอยู่ไกลสุดเอื้อม เรฟคิดว่าเอห์เลน่า ไม่ควรแปดเปื้อนเพราะเขาและที่สำคัญเขาไม่มีวันจะเป็นคนดีได้ในสายตาเธอ  ส่วนเอห์เลน่าคิดว่าเรฟร่ำรวยและสถานะสูงแตกต่างจากเธอมากเกินไป
อย่างไรก็ตามเมื่อเอห์เลน่ารู้ความจริงเกี่ยวกับเรฟ เรารู้สึกเสียใจค่ะที่เธอปิดประตูรับฟังคำสารภาพของเรฟแบบไม่เหลือเยื่อใย
เจอาร์ ยังไม่ทิ้งสไตล์เดิมเหมือนเล่มก่อน ๆ ที่จะเขียนตัดสลับฉากไปมาในหลายสถานที่และตัวละครหลายคน ขอเขียนรวม ๆ เลยก็จะมีฉากของภราดรรุ่นใหม่ จอห์น ควินน์และเบลย์ ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกงานภาคสนามพวกเขาส่วนใหญ่ยังต้องฝึกซ้อมเวลาว่างก็ไปที่คลับซีโร่ซัมในเหตุผลที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน จอห์นอยากพบเฮ็กซ์แบบว่าแค่ได้เห็นหน้าเธอ ก็ยังดี ซึ่งเฮ็กซ์ก็ใจร้ายเหลือเกินพอได้เขาแล้วก็ตีจาก จอห์นถึงกับอกหักเมาหัวราน้ำ (เล่มของคู่นี้เลยทำให้เราอยากอ่านมาก ๆ ) ควินน์หมกมุ่นกับสาวซึ่งไม่ใช่แค่คนเดียวส่วนเบลย์ก็ได้แต่นั่งหน้าเครียดดู ควินน์มั่วสาว ๆ ไป ทอร์ซึ่งกลับมาตั้งแต่เล่มของฟิวรี่ในสภาพบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจในที่สุดเขาก็คิดได้เริ่มฟื้นฟูกลับเข้าสู่สนามรบอีกครั้ง
เล่มนี้เราจะได้เห็นหนุ่มภราดรรุ่นดั้งเดิมมีบทบาทกันครบทีเดียวค่ะ ขณะเดียวกันแลซ ลูกชายของดิโอเมก้าก็กำลังหาพันธมิตรร่วมเพื่อทำลายล้างเผ่าพันธ์แวมไพร์ซึ่งเรามองว่าตั้งแต่แลซกลายสภาพเป็นแลสเซอร์ กลุ่ม  ภราดรเจองานหินทีเดียว

คะแนนความพอใจ 8+

ไม่มีความคิดเห็น: